อิสระ ชูภักดี ปลุกกกให้ได้เกิดทั้งคนปลูกคนทอคนทำ

ปลุกกกให้เกิด” ผ่านการสร้างระบบนิเวศที่เชื่อมโยงกันตั้งแต่ คนปลูก คนทอ จนถึงคนสร้างสรรค์ โดยใช้กระบวนการมีส่วนร่วมจากชุมชน ผสานดีไซน์ร่วมสมัยและแนวคิดเศรษฐกิจพอเพียง เพื่อให้เสื่อกกไม่ใช่แค่วัสดุท้องถิ่น แต่กลายเป็นแรงบันดาลใจใหม่ในแฟชั่นและการใช้ชีวิตที่ยั่งยืน โดยการทำงานร่วมกับ ป้าๆ ที่พวกเราเรียกว่าแม่ครู ทุกคนยินดีสอนและให้คำแนะนำแบบไม่หวงวิชา พอได้ลงมือทำเองรู้เลยว่ายากมาก กว่าจะเป็นกกแต่ละเส้นไม่ใช่เรื่องง่าย จึงเข้าใจว่าทำไมคนรุ่นใหม่ไม่อยากทำ เพราะทำช้า ได้เงินน้อย ในขณะที่เรามองว่านี่แหละคืออาชีพที่ยั่งยืน ไม่ร่ำรวยแต่อยู่ได้ มีความสุข

นายอิสระ ชูภักดี (อิส) ชาวจันทบุรี New Young Craft ปี 2567 เจ้าของแบรนด์ กอกก ( korkok) จังหวัดจันทบุรี คนรุ่นใหม่ที่นำกกมาทำประโยชน์ สร้างเป็นแบรนด์ของตัวเอง คุณอิสจบปริญญาตรี วิชาเอกสื่อสารมวลชน คณะมนุษยศาสตร์ มหาวิทยาลัยรามคำแหง ปัจจุบันทำธุรกิจส่วนตัวกับครอบครัว และเป็นคอลัมนิสต์ให้กับวารสารจันท์ยิ้ม จุดเริ่มต้นของการทำแบรนด์ (แรงบันดาลใจ)จากปลุกกกให้เกิด พัฒนาต่อยอดอย่างงดงาม KORKOK คือ แบรนด์กระเป๋าเสื่อกกจันทบูร ที่เกิดขึ้นจากความตั้งใจในการสืบสานภูมิปัญญาท้องถิ่นของชาวจันทบุรี 

“กกสองน้ำ” กกพื้นถิ่นที่เติบโตในน้ำกร่อย ให้เส้นใยเหนียว มันวาว สวยงาม ทอเป็นเสื่อกกจันทบูรที่มีคุณภาพ แข็งแรง ทนทาน ไม่ขึ้นรา งานหัตถศิลป์ร่วมสมัยที่ผสานภูมิปัญญา ความคิดสร้างสรรค์ และแนวคิดเศรษฐกิจพอเพียง สู่ผลิตภัณฑ์ GI มรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมของชาติ เพื่อชุมชนและสิ่งแวดล้อมที่ยั่งยืน  ปกติคนทำกก พอตากแห้งแล้วก็จะเก็บเป็นสต๊อกไว้ทอเป็นเสื่อตลอดปี เราให้ป้าทอเสื่อให้ พอจะจ่ายเงิน ป้าบอกไม่เอาเงินแต่ขอเป็นกกแห้งแทน เงินดูจะไม่สำคัญเท่าการมีกกไว้ คนทำเสื่อเค้ารู้ดีว่าการมีกกแห้งไว้เหมือนมีทองคำประดับกาย คำว่ากกแพงกว่าทองคำนั้นดูจะเป็นเรื่องจริง เพราะกกคืองาน กกคือสร้างรายได้ กกคือชีวิต ฤดูกาลเก็บเกี่ยวในรอบนี้  ผลผลิตจาก กกสดราวๆ 700 กก. จ้างตัด จ้างจัก งบประมาณราวหมื่นกว่า ทำแห้งเสร็จรวมยอดได้ 139 กก. ราคาขาย กก.ละ 120 บาท รวมรายได้ 16,680 บาท แต่ในระหว่างขั้นตอน มีค่าใช้จ่ายอื่นๆ อีกจำนวนหนึ่งนี่-นั่นกระจายระหว่างทางที่ไม่ได้คิด เบ็ดเสร็จหักลบค่าต้นทุนกับรายได้ะพอดีกัน กำไรไม่เห็น แต่สิ่งที่ได้ คือ รอยยิ้มและความภาคภูมิใจ ต่อวงจรชีวิตกกเพื่อให้คงอยู่ การปลูกกกที่ไม่ได้หวังเพียงกำไร แต่เห็นรอยยิ้มของคนทำเสื่อ มีกกไว้ใช้ก็ดีใจแล้วทำเท่าที่กำลังไหว และจะทำต่อในวิถีชีวิตแบบคนจันทบุรี เราเข้าใจแล้วว่า ‘ขาดทุนคือกำไร‘ มันมีความหมายอย่างไร แม้จะเหนื่อยแต่มีความสุข 

KORKOK ที่เต็มไปด้วยรายละเอียดและเรื่องราว จากเส้นกกธรรมชาติสู่ดีไซน์ร่วมสมัย ผสานพลังของ ‘แม่ครูทอเสื่อ’ รุ่นเก๋า กับความคิดสร้างสรรค์ของคนรุ่นใหม่ สู่แฟชั่นไอเท็มที่งดงามและเปี่ยมเสน่ห์เหนือกาลเวลาจากสิ่งของที่เป็นเพียงเครื่องใช้ในชีวิตประจำวัน วันนี้เสื่อจันทบูรถูกพัฒนาต่อยอดเป็นของตกแต่ง ของที่ระลึก และสินค้าไลฟ์สไตล์ร่วมสมัย อาทิ กระเป๋า พรม ปลอกหมอน และของประดับบ้าน ซึ่งนอกจากจะช่วยเพิ่มมูลค่าให้ผลิตภัณฑ์แล้ว ยังเป็นการสร้างรายได้และโอกาสทางเศรษฐกิจแก่ชุมชนอีกด้วย

ปลุกกก ให้ได้เกิด ทั้งคนปลูก คนทอ คนทำ
TEL: 085 199 2488
FB  : KORKOK
IG  : KORKOKCHAN

เครดิตภาพ FB  : KORKOK

#KORKOK
#เสื่อกกจันทบูร
#SACIT #สถาบันส่งเสริมศิลปหัตถกรรมไทย
#KORKOK #เสื่อกกจันทบูร
#มรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมของชาติ
#ปลุกกกให้ได้เกิดทั้งคนปลูกคนทอคนทำ

SACIT ร่วมอนุรักษ์ภูมิปัญญาไทยผ่านงานกกและเสื่อจันทบูร สู่ผลงานสร้างสรรค์ร่วมสมัย

สืบสานหัตถศิลป์ถิ่นสีสันชุมชน” SACIT ร่วมอนุรักษ์ภูมิปัญญาไทยผ่านงานกกและเสื่อจันทบูร สู่ผลงานสร้างสรรค์ร่วมสมัย

จันทบุรี 24 กรกฎาคม 2568: งาน “สืบสานสู่สานต่อหัตถศิลป์ถิ่นสีสันของชุมชน” KOK Community ต้นน้ำ สู่ปลายน้ำ จันทบุรี จัดขึ้นในวันที่ 24 กรกฎาคม 2568 ณ มหาวิทยาลัยราชภัฏรำไพพรรณี จังหวัดจันทบุรี เพื่อส่งเสริมการเรียนรู้ภูมิปัญญาท้องถิ่นจากครูช่างศิลป์และคนรุ่นใหม่ พร้อมเสวนาสุดเข้มข้นที่จะทำให้มองเห็นอนาคตใหม่ของงานหัตถกรรมไทย และส่งเสริมการเยี่ยมชมแหล่งผลิตเสื่อกกและผลิตภัณฑ์จากกก แหล่งเพาะปลูกกก และศูนย์หัตถกรรม จัดโดย สถาบันส่งเสริมศิลปหัตถกรรมไทย (องค์การมหาชน) หรือ SACIT

ภายในงาน “สืบสานสู่สานต่อหัตถศิลป์ถิ่นสีสันของชุมชน” KOK Community ต้นน้ำ สู่ปลายน้ำ จังหวัดจันทบุรี ผู้เข้าร่วมงานจะได้สัมผัสเบื้องหลังความงามของงานศิลปหัตถกรรมไทย และเรื่องราวของการทอเสื่อกกอันเป็นเอกลักษณ์ ชมผลิตภัณฑ์สร้างสรรค์จากเส้นกกที่ผสมผสานระหว่างความดั้งเดิมและการออกแบบสมัยใหม่ พร้อมกิจกรรมเวิร์กชอปผ่านการสาธิตจริงจากช่างฝีมือท้องถิ่นที่เปิดโอกาสให้ผู้เข้าชมได้ทดลองเรียนรู้และสร้างสรรค์ผลงานด้วยตนเองไฮไลต์กิจกรรมภายในงาน วันที่ 24 กรกฎาคม 2568 ได้แก่ การสาธิตการทอเสื่อกกแบบดั้งเดิม โดยช่างฝีมือท้องถิ่น, เวิร์กชอปเรียนรู้การออกแบบและสร้างสรรค์ผลงานจากกก, นิทรรศการและจำหน่ายผลิตภัณฑ์จากเสื่อกกจันทบูร ทั้งแบบดั้งเดิมและร่วมสมัย และการเสวนาจากผู้เชี่ยวชาญด้านหัตถศิลป์และช่างฝีมือท้องถิ่นในหัวข้อ “ต้นน้ำที่กำลังจะสูญหาย” และ “โอกาสของกกในมิติต่างๆ” ที่จะทำให้มองเห็นศักยภาพและอนาคตใหม่ของงานหัตถกรรมไทย โดยครูจุไรรัตน์ สรรพสุข ครูช่างศิลปหัตถกรรม ประจำปี 2558 และคุณอิสระ ชูภักดี คนรุ่นใหม่ New Young Craft 2567

นางสาวแสงระวี สิงหวิบูลย์
รองผู้อำนวยการสถาบันส่งเสริมศิลปหัตถกรรมไทย

นางสาวแสงระวี สิงหวิบูลย์ รองผู้อำนวยการสถาบันส่งเสริมศิลปหัตถกรรมไทย กล่าวว่า SACIT มุ่งเน้นที่จะสร้างความยั่งยืน และสืบสานงานศิลปหัตถกรรมไทย จึงได้มีการส่งเสริมงานช่างฝีมือดั้งเดิมให้มีการประกอบอาชีพ และพัฒนากระบวนการสร้างสรรค์ศิลปหัตถกรรมไทย ทั้งด้านคุณภาพ มาตรฐานของผลิตภัณฑ์ และใส่ใจในสิ่งแวดล้อม ในทุกประเภทของงานหัตถกรรม และทั่วทุกภาคของประเทศ โครงการ “สืบสานสู่สานต่อหัตถศิลป์ถิ่นสีสันของชุมชน” KOK Community ต้นน้ำ สู่ปลายน้ำ จังหวัดจันทบุรี นี้ จึงจัดขึ้นเพื่อต่อยอดและส่งเสริมการสร้างรายได้ให้กับชุมชน สนับสนุนการอนุรักษ์งานหัตถศิลป์ สืบสานภูมิปัญญาการทอเสื่อกกของชุมชนจันทบุรี และสร้างความภาคภูมิใจในมรดกทางวัฒนธรรมไทยที่สืบทอดมายาวนาน รวมทั้งการต่อยอดงานหัตถศิลป์ให้เป็นผลิตภัณฑ์ร่วมสมัย เพื่อเพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจ โดยเปิดโอกาสให้คนรุ่นใหม่และนักท่องเที่ยวได้เรียนรู้และมีส่วนร่วม และช่วยกระตุ้นการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมและสร้างรายได้สู่ท้องถิ่นได้ในระยะยาว เสน่ห์ “กก” และ “เสื่อจันทบูร” หัตถศิลป์ทรงคุณค่าคู่ชุมชนจันทบุรี

“กก” คือพืชท้องถิ่นที่เติบโตได้ดีในพื้นที่ชุ่มน้ำของจังหวัดจันทบุรี ชาวบ้านนำมาผ่านกระบวนการเก็บเกี่ยว ตากแห้ง จัดเส้น และย้อมสีอย่างประณีต ก่อนนำมาทอเป็นเสื่อและของใช้ต่าง ๆ ซึ่งถือเป็นภูมิปัญญาที่สืบทอดจากบรรพบุรุษมาอย่างยาวนาน

จุดเด่นของ “เสื่อจันทบูร” อยู่ที่ความละเอียดในการทอ ลวดลายที่สวยงามเป็นเอกลักษณ์ และสีสันที่สดใสไม่ซ้ำใคร โดยฝีมือช่างผู้มีประสบการณ์ ประกอบกับคุณสมบัติของต้นกกในพื้นที่จันทบุรีที่มีลักษณะเฉพาะ มีความแข็งแรง คงทน ทำให้เสื่อมีความทนทาน มันวาว เหมาะสำหรับการใช้งานจริง และยังเป็นงานศิลป์ที่สะท้อนถึงรสนิยมและอัตลักษณ์ของชุมชน
จากสิ่งของที่เป็นเพียงเครื่องใช้ในชีวิตประจำวัน วันนี้เสื่อจันทบูรถูกพัฒนาต่อยอดเป็นของตกแต่ง ของที่ระลึก และสินค้าไลฟ์สไตล์ร่วมสมัย อาทิ กระเป๋า พรม ปลอกหมอน และของประดับบ้าน ซึ่งนอกจากจะช่วยเพิ่มมูลค่าให้ผลิตภัณฑ์แล้ว ยังเป็นการสร้างรายได้และโอกาสทางเศรษฐกิจแก่ชุมชนอีกด้วย

งาน “สืบสานสู่สานต่อหัตถศิลป์ถิ่นสีสันของชุมชน” KOK Community ต้นน้ำ สู่ปลายน้ำ จังหวัดจันทบุรี เป็นส่วนหนึ่งของนโยบายสำคัญของสถาบันส่งเสริมศิลปหัตถกรรมไทย (องค์การมหาชน) หรือ SACIT ที่ต้องการส่งเสริม สืบสานงานหัตถศิลป์ไทยร่วมกับชุมชน และนำไปสู่การร่วมกำหนดทิศทางและการดำเนินการร่วมกันในทุกภาคส่วน เพื่อให้การเชื่อมโยงงานศิลปหัตถกรรมเข้ากับมิติต่างๆ ของสังคม และการท่องเที่ยว โดยมีการขับเคลื่อนการดำเนินงานผ่าน “ครูศิลป์ของแผ่นดิน และครูช่างศิลปหัตถกรรม” และมีการบูรณาการการทำงานร่วมกับ ภาคีเครือข่าย และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในท้องถิ่น มุ่งเน้นการสร้างโอกาสให้กับเครือข่ายต่างๆ ให้ได้ร่วมคิด ร่วมทำ เกิดความคิดและทางเลือกใหม่ ๆ เกิดพลังชุมชนที่เข้มแข็งจากฐานราก มีความพร้อมเป็นแหล่งเรียนรู้งานศิลปหัตถกรรมในพื้นที่ สร้างความเชื่อมโยงระหว่างผลิตภัณฑ์ศิลปหัตถกรรม วิถีชุมชน กับการท่องเที่ยวได้อย่างสมดุล ซึ่งช่วยให้ชุมชนสามารถพัฒนาสู่การเป็นแหล่งเรียนรู้งานศิลปหัตถกรรมและการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม ศิลปหัตถกรรมไทย ตลอดจนเป็นส่วนสำคัญในการสร้างอาชีพ สร้างรายได้ให้แก่ชุมชนอย่างยั่งยืน