Category Archives: ข่าวประชาสัมพันธ์

ผู้ช่วย รมต.วธ. จับมือผู้บริหารสายสีแดง เข้าสวัสดีปีใหม่ รมช.คมนาคม

เมื่อวันที่ 4 มกราคม 2568 นางสาวพลอย ธนิกุล ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงวัฒนธรรม พร้อมด้วยนายกริช ธนิกุล กรรมการบริษัท รถไฟฟ้า ร.ฟ.ท. จำกัด หรือผู้ให้บริการรถไฟฟ้าชานเมืองสายสีแดงเข้ากราบสวัสดีปีใหม่ และ ขอพรจากนายสุรพงษ์ ปิยะโชติ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคมเนื่องในโอกาสวันขึ้นปีใหม่ พุทธศักราช 2568

ณ ฟาร์มโคนมบ้านพุประดู่ (MMilk Dairy Farm)
ตำบลหนองบัว อำเภอเมืองกาญจนบุรี จังหวัดกาญจนบุรี

เริ่มแล้ว!! เวทีการประกวดผลิตภัณฑ์ศิลปหัตถกรรมไทยที่ปลุกปั้นนักออกแบบไทย

สถาบันส่งเสริมศิลปหัตถกรรมไทย (องค์การมหาชน) หรือ SACIT เชิญชวนนักออกแบบ และกลุ่มผู้ผลิตงานศิลปหัตถกรรม เข้าร่วมโครงการประกวดแนวคิดสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ศิลปหัตถกรรมระหว่างประเทศ International Craft Creation Concept Award 2025 หรือ I.CCA.2025 เพื่อร่วมนำเสนอผลงานศิลปหัถตกรรมไทยที่มีศักยภาพและเผยแพร่มรดกภูมิปัญญาศิลปหัตถกรรมไทยไปไกลระดับโลก ชิงเงินรางวัลพร้อมเงินสนับสนุนในการผลิตผลงานต้นแบบรวมมากกว่า 650,000 บาท ภายใต้แนวคิด “Innovative Heritage Craft: หัตถศิลป์ แห่งมรดกหัตถกรรม” ตั้งแต่บัดนี้ – 15  มกราคม 2568

ผศ.ดร.อนุชา ทีรคานนท์ ผู้อำนวยการสถาบันส่งเสริมศิลปหัตถกรรมไทย  เผยว่า ” โครงการประกวดแนวคิดสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ศิลปหัตถกรรมระหว่างประเทศ International Craft Creation Concept Award 2025 หรือ I.CCA.2025 ถือได้ว่าเป็นโครงการประกวด ฯ เพื่อถ่ายทอดให้คนรุ่นใหม่ ได้เข้าใจและตระหนักถึงความสำคัญ และค้นหาแนวทางในการสืบสานงานหัตถศิลป์ไว้ด้วยการสร้างสรรค์ผลงาน นวัตศิลป์ร่วมสมัยผ่านการผสมผสานเทคโนโลยี นวัตกรรม ความคิดสร้างสรรค์และภูมิปัญญาท้องถิ่นที่เป็นเอกลักษณ์”

สำหรับในปี 2568 นี้ SACIT เปิดโอกาสให้ผู้ที่สนใจสมัครเข้าร่วมโครงการเพื่อรับโอกาสในการคัดเลือกและนำเสนอผลงานที่แสดงถึง การสืบสาน สร้างสรรค์ ส่งเสริม งานศิลปหัตถกรรมไทยในทุกมิติอย่างยั่งยืน ซึ่งผู้ที่ได้รับคัดเลือกจะได้รับองค์ความรู้ในกิจกรรม SACIT Craft Lab เพื่อพัฒนารูปแบบผลงานประกวดสร้างสรรค์  สู่การเป็นผลงาน Masterpiece รวมถึงการเผยแพร่ สร้างการรับรู้ และสร้างการยอมรับในระดับนานาชาติ จนไปสู่การต่อยอดเชิงพาณิชย์ ส่งเสริมการค้าทั้งในประเทศและในระดับสากล โดย Creative Craft Coach  (นักสร้างสรรค์งานคราฟต์) ระดับประเทศและมากประสบการณ์ เพื่อชิงรางวัล ประกอบด้วย รางวัลชนะเลิศจะได้รับเงินสด 150,000 บาท และรางวัลรองชนะเลิศ จะได้รับเงินสด 100,000 บาท พร้อมเกียรติบัตรและโล่รางวัล

ผู้สนใจสามารถส่งผลงานเข้าประกวด ฯ ได้ตั้งแต่บัดนี้ – 15 มกราคม 2568              ผ่านเว็บไซต์ www.sacit.or.th พร้อมกรอกข้อมูลให้ครบถ้วน
ผ่านลิงค์ Google Form : https://forms.gle/fBgGAAFjhvxzpiiu8
หรือ ผ่านทางไปรษณีย์: สถาบันส่งเสริมศิลปหัตถกรรมไทย (องค์การมหาชน)
เลขที่ 59 หมู่ 4 ตำบลช้างใหญ่ อำเภอบางไทร จังหวัด พระนครศรีอยุธยา 13290
วงเล็บมุมซอง (I.CCA. 2025) 

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ดร.สุกานดา ถิ่นฐาน / คุณเปี่ยมพร ฉายศรี
(ผู้ประสานงานโครงการ) โทรศัพท์: 086 564 4666 / 088 931 5345  Email: contact.icca2025@gmail.com

Thailand Halal Assembly 2024

“Thailand Halal Assembly 2024” โชว์ศักยภาพฮาลาลไทยในยุคเทคโนโลยีดิจิตอล หวังสร้างโอกาสที่ยั่งยืนในอุตสาหกรรมฮาลาลไทย

เมื่อโลกก้าวสู่ยุคเทคโนโลยีดิจิตอล ทิศทางฮาลาลจะเป็นอย่างไร พร้อมค้นพบโอกาสใหม่ ๆ ทางธุรกิจและ เทคโนโลยีฮาลาลที่ตอบโจทย์อนาคตได้ กับงานฮาลาลที่ดีที่สุดในไทย “ #ThallandHalalAssembly2024 ” ภายใต้แนวคิด “Toward Halal Trust Through Digital Technology 2 AIs” หรือ “ความไว้วางใจด้านฮาลาล ผ่านเทคโนโลยี ดิจิทัลสองเอไอ” หวังสร้างโอกาสที่ยั่งยืนในอุตสาหกรรมฮาลาลไทย อีกทั้งช่วยให้ประเทศ ไทยได้ขยายส่วนแบ่งทางการตลาดในเศรษฐกิจฮาลาลโลก โดยงานจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 19 – 20 ธันวาคม 2567 ณ โรงแรมอัลมีรอช กรุงเทพฯ โดยได้รับเกียรติจาก นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวง อุตสาหกรรม เป็นประธานเปิดงาน

รศ.ดร.วินัย ตะห์ลัน ผู้อำนวยการ ศูนย์วิทยาศาสตร์ฮาลาล จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และประธาน จัดงาน Thailand Halal Assembly 2024 กล่าวว่า # ศูนย์วิทยาศาสตร์ฮาลาล จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ( #ศวฮ.) เป็น เจ้าภาพหลักในการจัดงาน “Thailand Halal Assembly 2024 ( #THA2024 )” การประชุมวิชาการด้าน วิทยาศาสตร์และนวัตกรรมฮาลาลนานาชาติ ซึ่งจัดขึ้นเป็นครั้งที่ 11 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อการแลกเปลี่ยนองค์ ความรู้ใหม่และนวัตกรรมใหม่ๆ ในโลกฮาลาล ให้กับมุสลิมด้วยกันเอง และผู้ที่ไม่ใช่มุสลิมที่มีความสนใจใน อุตสาหกรรมสาลาล โดยปีนี้จัดขึ้นภายใต้แนวคิด “Toward Halal Trust Through Digital Technology 2 AIs” หรือ “ความไว้วางใจด้านฮาลาลผ่านเทคโนโลยีดิจิทัลสองเอไอ” ซึ่งปฏิเสรไม่ได้ว่าปัจจุบันโลกของเราก้าวสู่การ เป็นโลกแห่งเทคโนโลยีดิจิทัลอย่างสมบูรณ์แบบ สำหรับ #2AIs ที่ต้องการนำเสนอในงานครั้งนี้ได้แก่ เลโอที่ หนึ่ง คือ Actual Implementation ซึ่งเป็นการปฏิบัติงานผ่านการอัพสกิล ฝึกปฏิบัติด้วยหนึ่งสมองสองมือในการ ทำงาน เช่น งานการมาตรฐานฮาลาล, การวางระบบ HAL-Q. งานห้องปฏิบัติการนิติวิทยาศาสตร์ฮาลาล, งานพัฒนา นวัตกรรม, งานพัฒนาฐานข้อมูล H numbers, การตัดสินทางศาสนา (ฟุตวา) เพื่อให้มนุษย์หรือคนยังคงสภาพผู้นำ โดยมีเครื่องจักรและเอไอเป็นผู้ตาม และเอไอที่สอง คือ Artificial Intelligence โดยใช้ปัญญาประดิษฐ์ เพื่อบริหาร จัดการข้อมูลขนาดใหญ่ (Big Data) เพื่อเป็นการลดต้นทุนการผลิต และช่วยให้เกิดความเชื่อมั่นในผลิตภัณฑ์ฮาลาล”

ภายในงานประกอบด้วยกิจกรรมต่างๆ อาทิ งาน IHSATEC (International Halal Science and Technology Conference) ครั้งที่ 11 และงาน HASIB (Halal Science, Industry and Business) งานประชุมวิชาการ ฮาลาลนานาชาติ ครั้งที่ 17 โดยมีหัวข้อการประชุมหลัก คือ “2 AIs for Thailand’s Halal Trust & Confidence” และหัวข้ออื่น ๆ ที่น่าสนใจอีกมากมาย อาทิ สาสาลกับสุขภาพและความงาม, ฮาลาลกับวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และ นวัตกรรม และ Halal Route Workshop ซึ่งทั้งสองงานประสบความสำเร็จอย่างยิ่งในการจัดการประชุมระดับ นานาชาติด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี อุตสาหกรรม และธุรกิจฮาลาล โดยมีผู้เข้าร่วมจากมากกว่า 40 ประเทศ บทความวิชาการที่นำเสนอในการประชุม จะได้รับการเผยแพร่ในวารสารวิชาการนานาชาติ JHASIB หรือ Journal of Halal Science, Industry and Business ซึ่งจะเผยแพร่ปีละสองฉบับ เพื่อส่งเสริม งานวิจัยด้านวิทยาศาสตร์สา ลาลในระดับสากล

รวมถึง โซน SMEs ฮาลาล การจัดแสดงศักยภาพผู้ประกอบการในการนำเสนอผลิตภัณฑ์นวัตกรรมที่ร่วม พัฒนาโดยศูนย์วิทยาศาสตร์ฮาลาล จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ซึ่งมีพัฒนาการทั้งกระบวนการผลิต ผลิตภัณฑ์ และ การตลาดทั้งในและต่างประเทศ โดยผู้ประกอบการที่นำเสนอนวัตกรรมผลิตภัณฑ์ในกิจกรรมนี้ ซึ่งได้รับการคัดเลือก จากคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิว่ามีความพร้อมและมีศักยภาพที่จะได้รับรางวัลนวัตกรรม SMEs ฮาลาล รวม 18 สถานประกอบการ จากผลิตภัณฑ์อาหารและสินค้าที่ไม่ใช่อาหาร เช่น Suwirun Tea Shop Thailand Premium Organic Tea, Madi Kombucha, Vanapan Vegan Nail Care และผลิตภัณฑ์อื่นๆ อีกมากมาย และที่ห้ามพลาดกับ นิทรรศการ “Halal Trust Through Digital Technology 2AIs” ที่ผสานการนำไปปฏิบัติจริงกับปัญญาประดิษฐ์ (Al) เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับสินค้าและอุตสาหกรรมฮาลาลในประเทศไทย เกิดความน่าเชื่อถือและเสริมสถานะ บนเวทีโลก ซึ่งการประชุมในครั้งนี้คาดว่าจะมี ประโยชน์ อย่างยิ่งต่อการพัฒนาวิทยาศาสตร์ อุตสาหกรรม และธุรกิจ ฮาลาล ช่วยให้ประเทศไทยขยายส่วนแบ่งทางการตลาดในเศรษฐกิจฮาลาลจากมูลค่าปัจจุบัน 6.1 พันล้านดอลลาร์ สหรัฐ โดยไม่รวมการท่องเที่ยวฮาลาล ยา และโลจิสติกส์ ซึ่งกำลังเติบโตอย่างรวดเร็วในขณะนี้

สำหรับผู้สนใจสามารถสอบถามข้อมูลด้านวิทยาศาสตร์ฮาลาลและนวัตกรรมฮาลาล ค้นพบโอกาสใหม่ๆ ทาง ธุรกิจและเทคโนโลยีฮาลาลที่ตอบโจทย์อนาคต รวมถึงติดตามข่าวสารต่างๆ ของงานเพิ่มเติมได้ที่ www.Thailandhalalassembly.com
Facebook: Thailand Halal Assembly
โทร. 02-218-0618 

ทีทอล์ค อ่านใจคนฟัง101 วิธีการเข้าใจคนให้คล่องก่อนการสื่อสาร

ดร.พงศ์พิพัฒน์ พงษ์ตน ประธานฝ่ายวิชาการ สมาคมนักเรียนเก่าอังกฤษในพระบรมราชูปถัมภ์ จัดการบรรยายพิเศษ [ทีทอล์ค] ในหัวข้อ “อ่านใจคนฟัง 101 วิธีการเข้าใจคนให้คล่องก่อนการสื่อสาร”

โดย ดร.ธีร์ธวัช เจนวัชรรักษ์ ผู้ก่อตั้ง PRACT (Presentation Academy Thailand) สถาบันสอนทักษะการสื่อสาร การพูดในที่สาธารณะ และการนำเสนอ อย่างมีประสิทธิภาพ เมื่อเร็วๆนี้ ที่สมาคม โดยมี ฐิติภูมิ จามิกรานนท์, กมลวัน บุณยัษฐิติ, ดร.ลาวัณย์ฉวี สุจริตตานนท์, ณัฐพัชร รัตนกนกวัฒน์, จันทิมา-ภาวิณี นะวิโรจน์, เอิร์ธ สายสว่าง และดร.จินดารัตน์ ชุมสาย ณ อยุธยา เข้าร่วม

พม. บุก สยามสแควร์วัน เดินรณรงค์ ยุติความรุนแรง ต่อเด็ก สตรี และบุคคลในครอบครัว

เมื่อวันที่ 11 พฤศจิกายน 2567 นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (รมว.พม.) เป็นประธานเปิดกิจกรรมรณรงค์ยุติความรุนแรงต่อเด็ก สตรี และบุคคลในครอบครัว ประจำปี 2567 ภายใต้แนวคิด “สร้างสุขปลอดภัย ไร้ความรุนแรง” (ACT NOW to end Violence against Women and Girls) โดยมีนางจตุพร โรจนพานิช รองปลัดกระทรวง พม. กล่าวรายงาน และการนำเสนอสารจากนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เนื่องในเดือนแห่งการรณรงค์ยุติความรุนแรงต่อเด็ก สตรี และครอบครัว ซึ่งมีนายธเนศพล ธนบุณยวัฒน์ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ นางสาวแรมรุ้ง วรวัธ อธิบดีกรมกิจการสตรีและสถาบันครอบครัว พร้อมคณะผู้บริหารกระทรวง พม. และผู้แทนภาคีเครือข่ายทุกภาคส่วน อาทิ ศาสตราจารย์ ดร.วิเลิศ ภูริวัชร อธิการบดีจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย คณะกรรมการสมรสคณะรัฐมนตรี คุณสุรศักดิ์ เกิดจันทึก รองผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย ดร.สุวรรณา ศิลปอาชา ผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการโอลิมปิคแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ และที่ปรึกษาคณะทำงานขับเคลื่อนการดำเนินงานด้านการส่งเสริมความเสมอภาคระหว่างเพศในการกีฬา คุณสุกัญญา ประจวบเหมาะ ประธานสภาสมาคมสตรีแห่งชาติในพระบรมราชินูปถัมภ์ คุณมิเกลล่า ฟิลแบรย์-สตอเร่ ผู้ประสานงานองค์การสหประชาชาติ ประจำประเทศไทย คุณชวาลี โอสถานุเคราะห์ นายกสมาคมสตรีภาคพื้นแปซิฟิกและเอเชียอาคเนย์แห่งประเทศไทย ในพระบรมราชินูปถัมภ์ และ พ.ต.อ.หญิง ศิริกุล ศรีสง่า โฆษกโรงพยาบาลตำรวจ รวมทั้งผู้แทนองค์การระหว่างประเทศ ศิลปิน ดารา นักเรียน นักศึกษา ประชาชนทั่วไป เข้าร่วมงาน ที่ลานอัฒจันทร์ ชั้น LG อาคาร Siam Square One

จากนั้นได้เป็นประธานในพิธีมอบโล่เชิดชูเกียรติสำหรับบุคลากร หน่วยงานที่สนับสนุนและส่งเสริมการยุติความรุนแรงต่อเด็ก สตรี และบุคคลในครอบครัว จำนวน 19 รางวัล และมอบประกาศนียบัตรสำหรับผู้ร่วมสนับสนุนกิจกรรมรณรงค์ยุติความรุนแรงต่อเด็ก สตรี และบุคคลในครอบครัว จำนวน 12 รางวัล เพื่อยกย่องเชิดชูเกียรติและสร้างขวัญกำลังใจในการเป็นแบบอย่างที่ดีต่อสังคมในการสนับสนุนและส่งเสริมการยุติความรุนแรงทุกรูปแบบ อีกทั้งแสดงเจตนารมณ์รณรงค์ยุติความรุนแรงต่อเด็ก สตรี และบุคคลในครอบครัว ร่วมกับผู้แทนภาคีเครือข่ายทุกภาคส่วน และองค์กรระหว่างประเทศ นอกจากนี้ มีการเดินขบวนรณรงค์ยุติความรุนแรงต่อเด็ก สตรี และบุคคลในครอบครัว ประจำปี 2567 การแสดง Flash mob “คำดีๆ มีให้กัน” จากวงดุริยางคศิลป์ มหาวิทยาลัยมหิดล และการแสดงคอนเสิร์ตจากศิลปินวง Getsunova

กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) ได้ให้ความสำคัญกับปัญหาความรุนแรงต่อเด็ก สตรี และบุคคลในครอบครัว และปัญหาการล่วงละเมิดหรือคุกคามทางเพศ (Sexual Harassment) รวมถึงปัญหาวิกฤตประชากร ดังนั้น เพื่อเป็นการรับมือกับสถานการณ์ดังกล่าว กระทรวง พม. ได้ผลักดันและขับเคลื่อนนโยบาย 5 x 5 ฝ่าวิกฤตประชากร ซึ่งประกอบด้วย 5 ข้อเสนอ และ 5 มาตรการ เพื่อให้ประชาชนทุกช่วงวัยได้รับการพัฒนาคุณภาพชีวิตได้อย่างครอบคลุมทุกมิติ ทั่วถึง เป็นธรรม สำหรับการดำเนินการยุติความรุนแรง ได้ผลักดันนโยบายและมาตรการหลายด้าน เพื่อปกป้องและคุ้มครองทุกเพศ ทุกวัย โดยมุ่งเน้นที่การปรับเปลี่ยนฐานคิดและให้ความสำคัญกับการส่งเสริมความเสมอภาคระหว่างเพศ การเคารพในสิทธิ โดยเฉพาะสิทธิเนื้อตัวร่างกาย การยอมรับในความแตกต่างหลากหลาย และเร่งสร้างการรับรู้ให้คนทุกกลุ่ม สามารถเข้าถึงสิทธิและประโยชน์ได้อย่างเท่าเทียมกัน

กระทรวง พม. โดยกรมกิจการสตรีและสถาบันครอบครัว (สค.) ได้ดำเนินการจัดกิจกรรมรณรงค์ยุติความรุนแรงต่อเด็ก สตรี และความรุนแรงในครอบครัวมาอย่างต่อเนื่องเป็นประจำทุกปี สอดรับกับมติคณะรัฐมนตรีที่เห็นชอบให้เดือนพฤศจิกายนของทุกปีเป็น “เดือนรณรงค์ยุติความรุนแรงต่อเด็กและสตรี” ซึ่งในปี 2567 กำหนดจัดกิจกรรมรณรงค์ฯ ภายใต้แนวคิด “สร้างสุขปลอดภัย ไร้ความรุนแรง” (ACT NOW to end Violence against Women and Girls) นับเป็นความร่วมมือกันในการรณรงค์ยุติความรุนแรงในทุกรูปแบบ เพื่อต้องการจะส่งสาร และเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ให้สังคมได้ตระหนักรู้ว่า ความรุนแรงไม่ใช่เรื่องส่วนตัว แต่เป็นปัญหาระดับสังคม ที่นับวันจะยิ่งทวีความรุนแรงและซับซ้อนมากยิ่งขึ้น และนับเป็นหนึ่งภัยเงียบของสังคม ที่เกิดขึ้นได้กับคนทุกช่วงวัย ทุกที่ ทุกเวลา และสามารถทิ้งรอยบาดแผล ทั้งทางร่างกายและจิตใจให้แก่ผู้ถูกกระทำโดยตรงแก่คนในครอบครัวของผู้ถูกกระทำ รวมถึงบุคคลและสังคมแวดล้อมก็ย่อมได้รับผลกระทบ

ในส่วนภูมิภาค สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดทั่วประเทศ กำหนดจัดกิจกรรมรณรงค์ยุติความรุนแรงต่อเด็ก สตรี และบุคคลในครอบครัว ตลอดทั้งเดือนพฤศจิกายน 2567 เพื่อร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างสังคมที่ปลอดภัย ไร้ความรุนแรง “ACT NOW” เริ่มได้ทันที เริ่มที่ตัวเรา โดยการ “ไม่ยอมรับ ไม่นิ่งเฉย ไม่กระทำความรุนแรงต่อเด็ก สตรี และบุคคลในครอบครัว”ทุกรูปแบบ

กิจกรรมรณรงค์ครั้งนี้ เป็นอีกก้าวหนึ่งของความพยายามในการรณรงค์ยุติความรุนแรงในทุกรูปแบบ ซึ่งแสดงให้เห็นว่าทุกภาคส่วนได้ให้ความสำคัญกับการป้องกันและแก้ไขปัญหา และความร่วมมือของทุกภาคส่วน ถือเป็นจุดเริ่มต้นที่สำคัญ เพื่อที่จะร่วมกันผนึกกำลังในการยุติความรุนแรงในทุกรูปแบบ จึงขอเชิญชวนคนไทยทุกคนเดินฝ่าวิกฤตครั้งนี้ จับมือไปด้วยกันอย่างแน่วแน่ ร่วมสร้างความตระหนักรู้ กระตุ้นจิตสำนึกและความคิด และลงมือทำในทันที ไม่ยอมรับ ไม่นิ่งเฉย ไม่กระทำความรุนแรงต่อเด็ก สตรี และบุคคลในครอบครัวทุกรูปแบบ ทั้งนี้ ขอขอบคุณและขอแสดงความยินดีกับหน่วยงาน รวมถึงบุคลากรที่ได้รับโล่ประกาศเกียรติคุณและใบประกาศนียบัตร ซึ่งร่วมสนับสนุนและส่งเสริมการยุติความรุนแรงต่อเด็ก สตรี และบุคคลในครอบครัวเสมอมา รวมทั้งภาคีเครือข่ายทุกภาคส่วน ที่ร่วมกันแสดงพลังในวันนี้ ให้ทุก ๆ คนในสังคมได้ตระหนักร่วมกันในการสอดส่อง ดูแล และช่วยเหลือ เมื่อพบการกระทำความรุนแรง เพื่อให้สังคมมีความสงบสุข เข้มแข็ง และยั่งยืนตลอดไป

อย่างไรก็ตาม หากพบเห็นปัญหาความรุนแรงต่อเด็ก สตรี และบุคคลในครอบครัว สามารถแจ้งได้ที่ศูนย์เร่งรัดจัดการสวัสดิภาพประชาชน (ศรส.) กระทรวง พม. ผ่านสายด่วน พม. โทร. 1300 บริการตลอด 24 ชั่วโมง หรือแอปพลิเคชันไลน์ @esshelpme

#สังคมไทยไร้รุนแรง #FamilyFirst #วันอาทิตย์เป็นวันครอบครัว #หยุดคุกคามทางเพศ #ฝึกอาชีพฟรี #เลี้ยงเดี่ยวไม่เดียวดาย #แตกต่างอย่างเท่าเทียม #DWF #สค.

📣 ติดตามข่าวสาร สค.ได้ที่
เว็บไซต์: https://www.dwf.go.th/
Facebook Fanpage : https://www.facebook.com/sorkor026596776/
TikTok : https://www.tiktok.com/@dwf_tiktok?_t=8Zl3GRosGXq&_r=1
เพื่อนครอบครัว: http://www.xn--42ca5dfr6ac6azcd1c9c9f0e.com/
LINE Official : @linefamily
YouTube: https://www.youtube.com/channel/UCXtsy6w-fx3fkESr-C6UaAA

โฟลว์ อินเตอร์ เปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ Arcobräu จากประเทศเยอรมัน

วันที่ 8 พฤศจิกายน 2567 : บริษัท โฟลว์ อินเตอร์ จำกัด จัดงานเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ เครื่องดื่มแบรนด์ดัง Arcobräu จากประเทศเยอรมัน โดยได้รับเกียรติจาก Mr. Holger Fichtel (Breweries Director Arcobräu) บินตรงจากประเทศเยอรมัน มาร่วมเปิดงาน พร้อมด้วย Mr. Martin terheiden, Klaus Puehmeyer, Katya Puehmeyer, คุณอัคค์สัจจา ก่อภพพัฒนพงศ์, คุณแอ-ภัทราริน ปัญญานุตธรรม, คุณภูเบศร์ คงสมบัติ เข้าร่วมงาน ท่ามกลางบรรยากาศของการเทสเครื่องดื่มชนิดใหม่อย่างเป็นกันเอง ณ ร้านพอลลาเนอร์ การ์เด้นท์ (เฉลิมพระเกียรติ ร.9 ) Arcobräu ถือเป็นมรดกแห่งความเป็นเลิศของบาวาเรีย โดยการเปิดตัว Arcobräu ประเพณีและนวัตกรรมในโลกของการผลิตเบียร์ด้วยประวัติศาสตร์อันยาวนานที่มีรากฐานมาจากงานฝีมือของบาวาเรีย Arcobräu ได้พัฒนาศิลปะการผลิตเบียร์มาหลายชั่วอายุคน โดยมีความมุ่งมั่นอันแน่วแน่ด้านคุณภาพ โดยใช้ส่วนผสมจากธรรมชาติที่ดีที่สุด และวิธีการต้มแบบดั้งเดิมเท่านั้น
Natur Radler ส่วนผสมที่เบา ๆ ให้ความสดชื่นของเลมอน มีกลิ่นหอม ปราศจากสารให้ความหวาน เหมาะอย่างยิ่งสำหรับการดื่มแบบเบาๆ การจับคู่อาหาร เช่น สลัด อาหารทะเล หรืออาหารเรียกน้ำย่อยเบาๆ

นอกจากนี้ ภายในงานยังได้อิ่มเอมไปกับซิกเนอร์เจอร์เมนูสไตล์เยอรมันมากมาย และเพลิดเพลินไปกับเสียงดนตรีสดจาก บางเขี้ยว สวีสตี้พี ที่ร้านอาหาร Paulaner Garden ศรีนครินทร์

คุณกานต์พิชชา คงสมบัติ ประธานกรรมการ บริษัท โฟลว์ อินเตอร์ จำกัด ได้กล่าวว่า การเปิดตัวเครื่องดื่มArcobräu ทั้ง 5 ชนิดวันนี้ เป็นเครื่องดื่มจากประเทศเยอรมันทางตอนใต้ของเมืองมิวนิคที่มีชื่อเสียงโด่งดัง จากการที่เราได้เดินทางไปเทสด้วยตัวเอง ก็เลยคิดว่า Arcobräu จะเป็นโอกาสในการเพิ่มช่องทางธุรกิจ เพิ่มยอดขายให้กับบริษัทของเราและยังเป็นการเพิ่มทางเลือกใหม่ให้กับนักดื่ม กระตุ้นยอดขายและเปิดตลาดเครื่องดื่มเยอรมันใหม่ คาดยอดขายเพิ่มขึ้น 10 % จากยอดขายปีที่แล้ว การจัดงานแถลงข่าวอย่างเป็นทางการในวันนี้ เราได้รับเกียรติอย่างสูงจาก Mr. Holger Fichtel (Breweries Director Arcobräu) เพื่อมาแนะนำ ให้ข้อมูลอย่างละเอียดในเรื่องของตัวเครื่องดื่ม และที่สำคัญ วันนี้ เราได้เชิญเอเจนต์ของเรามาสัมผัสประสบการณ์ใหม่กับการดื่มด่ำความสุขกับเครื่องดื่มชนิดนี้ นอกจากที่เรามีเครื่องดื่มพอลลาเนอร์ เป็นที่รู้จักเป็นอย่างดีแล้ว ก็ถือว่าเป็นอีกช่องทางหนึ่งที่เราได้เพิ่มเติมเครื่องดื่มดีๆเข้ามาทำตลาด และจากการที่ได้ทดลองดื่มแล้ว คิดว่า เครื่องดื่มทั้ง 5 ชนิดของ Arcobräu น่าจะเหมาะกับสำหรับคนไทย

1 Natur Radler ส่วนผสมที่เบา ๆ ให้ความสดชื่นของเลมอน มีกลิ่นหอม ปราศจากสารให้ความหวาน เหมาะอย่างยิ่งสำหรับการดื่มแบบเบาๆ การจับคู่อาหาร เช่น สลัด อาหารทะเล หรืออาหารเรียกน้ำย่อยเบาๆ

2 Mooser Liesl บาวาเรีย Helles คลาสสิกที่ต้มด้วยมอลต์พิเศษและฮอปต์ธรรมชาติ เพลิดเพลินไปกับรสชาติต้นตำรับที่นุ่มนวล ดื่มด่ำควบคู่ไปกับอาหารเลิศรส ไม่ว่าจะเป็น ไก่ย่าง เพรตเซล หรือชีส เข้ากันได้อย่างลงตัว

3 Weissbier Hell เครื่องดื่มจากข้าวสาลีระดับพรีเมียมที่ได้รับรางวัลนี้ ให้กลิ่นผลไม้และกลิ่นหอม ด้วยยีสต์ชั้นดีเพื่อรสชาติที่ละเมียดละมัย เหมาะกับการรับประทานกับอาหาร ประเภท ไส้กรอก ผักย่าง หรือซอฟต์ชีส

4 Festbier เครื่องดื่มสไตล์ดั้งเดิมนี้ผลิตขึ้นสำหรับเทศกาลอ๊อกโทเบิลเฟสต์ เป็นการรวบรวมการเฉลิมฉลองของบาวาเรีย ด้วยมอลต์ที่เข้มข้น มีกลิ่นหอมรับประทานง่าย ซึ่งสามารถรับประทานกับอาหารประเภท บราทวูร์สท์ และผักย่าง ได้เป็นอย่างดี

5 Winterbier เครื่องดื่มที่ผลิตขึ้นสำหรับตามฤดูกาลพิเศษ มีรสชาติเข้มข้นและกลิ่นหอมของฮอปส์อ่อนๆ เหมาะสำหรับการสังสรรค์ในฤดูหนาวที่แสนสบาย การจับคู่อาหารประเภทเนื้อสัตว์ปิ้งย่าง

กระแสตอบรับที่ผ่านมาดีมากๆ ในช่วงแรกที่เรานำเข้า NaturRadler เครื่องดื่มที่มีส่วนผสมเบา ๆ ให้ความสดชื่น และมีกลิ่นหอมของเลมอน ดื่มแล้วสดชื่น ขายดีมากๆ ขายหมดอย่างรวดเร็ว และได้วางจำหน่ายตามห้างสรรพสินค้าแล้วเช่นกัน ซึ่งเครื่องดื่มใหม่ทั้ง 5 ชนิดนี้ ที่มีรสชาติที่แตกต่างกัน แต่เหมาะกับคนทุกเพศทุกวัย เพราะเป็นเครื่องดื่มเบาๆ เย็นๆ เหมาะกับการเลี้ยงสังสรรค์ รวมถึง Winter bier เครื่องดื่มที่ผลิตขึ้นสำหรับตามฤดูกาลพิเศษ มีรสชาติเข้มข้นและกลิ่นหอมของฮอปส์อ่อนๆ เหมาะสำหรับการสังสรรค์ในฤดูหนาว ปลายปีที่แสนสบายในเมืองไทย ซึ่งเราจะจัดเทศกาล Winter Season ให้เข้ากับอากาศหนาวๆ เริ่มตั้งแต่วันนี้ เป็นต้นไป และห้ามพลาด Fest bier เครื่องดื่มสไตล์ดั้งเดิมนี้ผลิตขึ้นสำหรับเทศกาลอ๊อกโทเบิลเฟสต์ เราก็นำเข้ามาแล้ว และแน่นอนใครที่มาที่ร้านอาหาร พอลลาเนอร์ การ์เด้นท์ (เฉลิมพระเกียรติ ร.9 ชอย 9 แยก 2) ห้ามพลาดชิม เมนูเด็ดสไตล์เยอรมันที่ขายดีของเรา เช่น ขาหมูเยอรมัน ไส้กรอก

ซึ่งปัจจุบัน Arcobräu มีจำหน่ายตามห้างสรรพสินค้า และ ซุปเปอร์มาเก็ต ทั่วไป Tops, Villa Market, The Mall, Siam Takashimayaหรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ Flow Inter Co., Ltd. โทร. 02-748-1900

ฝ่ายบริการลูกค้า 086-907-8811 หรือ Line :@flowinter
เพจ Paulaner Garden Restaurant เว็บไซต์ www.paulaner-garden.com

แถลงข่าวการแข่งขันกีฬากอล์ฟ ครั้งที่ 1 เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวและสุขภาพ

เมื่อวันที่ 26 ตุลาคม 2567 เวลา 10.30 น . สมาคมส่งเสริมธุรกิจท่องเที่ยวไทย (สธทท.), สมาพันธ์ เอสเอ็มอี ไทย จ. นครปฐม , สมาคมท่องเที่ยว จ.นครปฐม ชมรมกีฬาและการท่องเที่ยวเพื่อสุขภาพ จ. นครปฐม ร่วมกับสำนักงานการท่องเที่ยวและกีฬา จ.นครปฐม และสนามกอล์ฟไดนาสตี้ กอล์ฟ แอนด์ คันทรี คลับ แถลงข่าวการแข่งขันกีฬากอล์ฟ ครั้งที่ 1 เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวและสุขภาพ และกระจายรายได้สู่ชุมชน ประกอบด้วย นายกันตพงษ์ ธนเนืองโรจน์ สมาคมส่งเสริมธุรกิจท่องเที่ยวไทย (สธทท.), นายสมศักดิ์ ธีรภาพสกุลวงศ์ ประธานสมาพันธ์ เอสเอ็มอี ไทย จ. นครปฐม นางวรินทร ทองพูน ประธานชมรมกีฬาและท่องเที่ยวเพื่อสุขภาพ จ.นครปฐม นายประสิทธิ์ ภักดีพาณิชพงศ์ ประธานบริหารสนามกอล์ฟไดนาสตี้ กอล์ฟ แอนด์ คันทรี คลับ ร่วมงาน โดยมีนางวรางคณา สุเมธวัน ประธานชมรมสื่อมวลชนส่งเสริมการท่องเที่ยว นำคณะสื่อมวลชนร่วมงาน ซึ่งการแข่งขันกีฬากอล์ฟครั้งที่ 1 จะมีขึ้นในวันที่ 22 พฤศจิกายน 2567 นี้ ณ สนามกอล์ฟ ไดนาสตี้ กอล์ฟ แอนด์ คันทรี คลับ อำเภอบางเลน จังหวัดนครปฐม

งานเริ่มขึ้นโดยการแสดงชุดพิเศษ จากศูนย์วัฒนธรรมไทดำ บ้านไผ่หูช้าง

นางวรินทร ทองพูน ประธานชมรมกีฬาและท่องเที่ยวเพื่อสุขภาพ จ.นครปฐม กล่าวว่า การจัดงานในครั้งนี้เป็นการร่วมมือกันของหลายองค์กร เพื่อร่วมมือกันในการผลักดันให้เกิดการท่องเที่ยวในพื้นที่ อีกทั้งยังเป็นการส่งเสริมและขับเคลื่อนด้านการท่องเที่ยวเพื่อให้เกิดการกระจายรายได้อย่างแท้จริง ซึ่งจังหวัดนครปฐมประกอบด้วย 7 อำเภอ กิจกรรมนี้ถือเป็นการนำร่องซึ่งสนามกอล์ฟ ฯ แห่งนี้นอกจากใกล้กรุงเทพมหานครแล้ว ยังมีการออกแบบอย่างสวยงาม มีความเป็นธรรมชาติ และมีมาตรฐานได้รับการยอมรับในระดับโลกและพร้อมสำหรับการรองรับนักท่องเที่ยว ซึ่งภายในงานมีกิจกรรมมอบของรางวัลต่างๆ มากมาย โดยได้รับการสนับสนุนจากทางสนามกอล์ฟและจากองค์กรต่างๆ

ด้านนายกันตพงษ์ ธนเนืองโรจน์ สมาคมส่งเสริมธุรกิจท่องเที่ยวไทย (สธทท.) กล่าวว่า โครงการนี้เป็นโครงการที่สำเร็จในการขยายโอกาสให้กับนักท่องเที่ยวได้เข้ามาสัมผัสสถานที่ต่างๆ ในจังหวัดนครปฐม ไม่ใช่แค่เรื่องกอล์ฟ แต่สำหรับทุกภาคส่วน นครปฐมมี 7 อำเภอ เราทุกภาคส่วนจะหาทางช่วยเหลือว่าทำอย่างไร จึงจะให้นักท่องเที่ยวเข้ามา เป้าหมายของเราต่อไป เราจะเป็นแนวร่วมในการขับเคลื่อนและขยายโครงการต่างๆ เพื่อสร้างกิจกรรมให้เกิดการท่องเที่ยวอย่างต่อเนื่อง

นอกจากนี้จะมีการออกแบบเส้นทางท่องเที่ยวเพื่อให้เกิดการท่องเที่ยวในแบบการพักค้างคืน อาจจะแบบมาเที่ยว 2 วัน 1 คืน โดยมีการเข้ามาเที่ยว มาพักและมาทานอาหารตามสถานที่ต่าง ๆ ของจังหวัด ซึ่งทางจังหวัดนครปฐมมีความพร้อมอยู่แล้ว ทั้งด้านสิ่งแวดล้อม ด้านการตลาด ด้านการท่องเที่ยว ด้านวัฒนธรรม

ขณะที่นายสมศักดิ์ ธีรภาพสกุลวงศ์ ประธานสมาพันธ์ เอสเอ็มอี ไทย จ. นครปฐม กล่าวว่า ทางจังหวัดนครปฐมมีความพร้อมในการเปิดบ้านต้อนรับนักท่องเที่ยวและการจับจ่ายใช้สอยในจังหวัด ซึ่งเอสเอ็มอี ในจังหวัด มีผลิตภัณฑ์ มีร้านอาหาร และสินค้าต่างๆ เรามีสินค้าแบรนด์ระดับประเทศ มีแบรนด์วีแกน และยังมีเอสเอ็มอี อีกหลายพันรายที่ ที่ต้องการการสนับสนุนเพื่อเชื่อมโยงในการสร้างสิ่งใหม่ๆ แก่ชุมชน

นายประสิทธิ์ ภักดีพาณิชพงศ์ ประธานบริหารสนามกอล์ฟไดนาสตี้ กอล์ฟ แอนด์ คันทรี คลับ กล่าวว่า สนามกอล์ฟ ฯ มีความยินดีในการสนับสนุนกิจกรรมในครั้งนี้อย่างเต็มที่ ซึ่งการจัดกิจกรรมครั้งนี้จะเป็นการกระจายรายได้สู่ชุมชนอีกทางหนึ่ง
ซึ่งต้องบอกว่า เอสเอ็มอี เป็นเสาหลักของประเทศจริงๆ การก่อร่างสร้างตัวประเทศที่ยิ่งใหญ่และเข้มแข็งได้ ไม่ว่าจะเป็นอเมริกา ญี่ปุ่นหรือไต้หวัน ส่วนหนึ่งมาจากเอสเอ็มอีที่มีความมั่นคง ผมดีใจที่เอกชนมาช่วยกันเรื่องนี้ ก็ให้กำลังใจ เรารับรู้กันอยู่แล้วว่า ถ้าหากรัฐบาลไม่ได้หันหน้ามามอง จะเหนื่อยมากๆ แต่ผมจะเป็นกำลังใจให้ ร้านค้าต่างๆ ของตำบล อำเภอ ก่อร่างสร้างตัวขึ้นมาอย่างยากลำบาก แต่วันนี้เราได้เห็นแล้วว่า ได้มีองค์กรที่มาช่วยกันดันเอสเอ็มอี ในชุมชนต่างๆของจังหวัดนครปฐมขึ้นมา เรายืนยันอีกครั้งหนึ่งว่า พร้อมที่จะสนับสนุนกิจกรรมต่างๆ นี้อย่างเต็มที่และจะสนับสนุนไปถึงกิจกรรมอื่นๆ ในจังหวัดอีกด้วย

ด้านนาง วรางคณา สุเมธวัน ประธานชมรมสื่อมวลชนส่งเสริมการท่องเที่ยว เปิดเผยว่า การแข่งขันกีฬากอล์ฟครั้งที่ 1 ในครั้งนี้ เป็นกิจกรรมดีดีที่จะส่งเสริมสนับสนุนการท่องเที่ยวอีกรูปแบบหนึ่ง คาดว่าจะดึงนักท่องเที่ยวทั้งไทยและต่างชาติเข้ามาได้ สนามกอล์ฟแห่งนี้เป็นสนามกอล์ฟตัวอย่างที่เป็นที่ชื่นชอบของนักกีฬากอล์ฟระดับโลกที่เข้ามาแข่งขันแล้ว และมีความพร้อมสำหรับการรองรับนักท่องเที่ยว

การแข่งขันกอล์ฟครั้งที่ 1 เปิดรับสมัครนักกอล์ฟสมัครเล่น ทีมละ 5 ท่านดวลวงสวิง โดยมีค่าสมัครทีมละ 15,000 บาทเพื่อหาทีมชนะเลิศชิงถ้วยรางวัลจาก พล.ต.ต.อังกูร คล้ายคลึง สมาชิกวุฒิสภาซึ่งแบ่งประเภทรางวัลและรางวัลพิเศษดังนี้ ถ้วยรางวัลชนะเลิศ ประเภททีม 1 รางวัล ถ้วยรางวัลชนะเลิศ GROSS SCORE 3 รางวัล ถ้วยรางวัลชนะเลิศ NET SCORE 3 รางวัล ถ้วยรางวัลบู้บี้ 1รางวัล นอกจากนี้ยังมีรางวัลพิเศษ 1รางวัล จากคุณประสิทธิ์ ภักดีพาณิชพงศ์ ผู้บริหาร สนามกอล์ฟไดนาสตี้ฯ เป็นบัตรรับประทานอาหารฟรี ในวันธรรมดาจำนวน 2 รางวัล รางวัลละ4 ท่าน มูลค่ารวมเป็นเงิน 5,600 บาท พร้อมด้วยรางวัลจากผู้ให้การสนับสนุนอีกมากมาย การแข่งขันในครั้งนี้เปิดโอกาสให้หน่วยงานภาครัฐและเอกชนส่งทีมเข้าร่วมแข่งขัน ซึ่งรายได้จากการจัดการแข่งขันส่วนหนึ่งหลังหักค่าใช้จ่าย มอบให้กับผู้ด้อยโอกาสและกลุ่มผู้ป่วยติดเตียงในอำเภอบางเลน จังหวัดนครปฐม ตามความเหมาะสมต่อไป

ภายหลังจากการแถลงข่าว การแข่งขันกีฬากอล์ฟ ครั้งที่ 1 ทางชมรมสื่อมวลชนส่งเสริมการท่องเที่ยว ยังได้นำคณะสื่อมวลชนไปเยี่ยมชมการบริหารจัดการ ศูนย์สุขภาพเชตวัน ศาลายา นครปฐม ซึ่งเปิดอบรมหลักสูตรนวดวัดโพธิ์และบริการนวดแผนโบราณต้นตำรับวัดโพธิ์ โดยมีคุณเสรัชร์ ตั้งตรงจิตร ผู้บริหารให้การต้อนรับ

เนื่องในโอกาสวันคล้ายวันเกิด  เอิร์ธ สายสว่าง

เป็นอีกวันแห่งความอบอุ่นและปลาบปลื้มในโอกาส ร่วมฉลอง Birthday celebration ให้กับ เอิร์ธ สายสว่าง Professional PR เป็นที่ปรึกษาดูแลและภารกิจ มากมาย เนื่องในโอกาสวันคล้ายวันเกิด ณ ร้านอำแดงไต้ฝุ่น

โดยมีเพลงอวยพรวันเกิดจาก ปุญชรัศมิ์ แก้ววัฒนะบรวงศ์ (คุณใหญ่)
(เจ้าของร้านอำแดงไต้ฝุ่น)ประจำปี 2566 สุดอบอุ่นท่ามกลางเพื่อนๆ โดยมีศิลปินดารานักแสดงและเซเลบริตี้ชื่อดังในวงการมากมายอวยพรอย่างเป็นกันเอง พร้อม มอบให้เจ้าของวันเกิดคุณเอิร์ธ สายสว่าง ที่ยิ้มรับอย่างอารมณ์ดีด้วยความสุขกายและสุขใจ สุขภาพแข็งแรง เป็นที่รักของทุกๆ คนตลอดไป

ปิดท้ายความสนุกสนามของงานนี้ ที่ร้านอำแดงไต้ฝุ่น by The River เน้นเมนูอาหารไทย-จีนสูตรตำรับโบราณเป็นแนวคิดดั้งเดิมร้านบรรยากาศดีติดริมแม่น้ำเจ้าพระยา ตั้งอยู่ภายในโครงการบางกอกสแควร์ถนนพระราม 3 โดยปัจจุบันได้รับการการันตีเรื่องความอร่อยเด็ดจาก Michelin Guide ประเภท The Plate ถึง 2 ปีซ้อน (2020 และ 2021)

อำแดงไต้ฝุ่น By the River
ให้บริการทุกวัน 11.00 – 22.00 น.
สำรองที่นั่ง โทร. 095 716 4712
Line: Amdangtyphoon
Instagram: amdangtyphoon
เส้นทาง: https://shorturl.asia/jZXaC

ห้องสมุดมารวยจัดงานฉลองครบรอบ 20 ปี

ตลอดระยะเวลา 20 ปี นับจากวันที่ 18 ตุลาคม 2547 ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยเปิด “ห้องสมุดมารวย” เพื่อให้เป็นห้องสมุดเฉพาะทางด้านตลาดทุนครบวงจรของผู้เกี่ยวข้องในตลาดทุน ผู้ลงทุน และประชาชนทั่วไป ภายใต้แนวคิด “ห้องสมุดมีชีวิต” ที่มีการเชื่อมต่อข้อมูลความรู้ในทุกมิติของการเงินการลงทุนพร้อมกิจกรรมส่งเสริมการเรียนรู้ไว้อย่างครบครัน

โดยในวันที่ 18 ตุลาคม 2567 ห้องสมุดมารวยจัดงานฉลองครบรอบ 20 ปี โดยมีศรพล ตุลยะเสถียร รองผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์ฯ เปิดงาน และจัดกิจกรรมเสวนาพิเศษภายใต้หัวข้อ “ชีวิตติดการอ่าน : We are Readaholics” โดยวิทยากรร่วมเสวนาในโอกาสพิเศษนี้ ได้แก่ เฌอปราง อารีย์กุล ผู้จัดการวง BNK 48 และนริศพงศ์ รักวัฒนานนท์ นักเขียนรางวัลซีไรต์ ประจำปี 2566 ดำเนินรายการโดยจิรัฐิติ ขันติพะโล และห้องสมุดมารวยยังได้จัดมุมหนังสือใหม่ ชื่อ “Sustainability for Life” ที่รวบรวมองค์ความรู้เกี่ยวกับความยั่งยืนอย่างครบครัน เพื่อให้ผู้ใช้บริการเข้าถึงได้ง่ายในที่เดียว

ห้องสมุดมารวยยังได้จัดแสดงนิทรรศการ 20 ปี ห้องสมุดมารวยและนิทรรศการ 50 ปี ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เปิดให้เข้าชมและใช้บริการห้องสมุดได้ทุกวัน ตั้งแต่เวลา 9:00-19:00 น. ณ อาคารตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ถนนรัชดาภิเษก พร้อมทั้งติดตามข้อมูลข่าวสารของห้องสมุดได้ที่ www.maruey.com

“PeeKaBoo Junior จ๊ะเอ๋! เด็ด เด็ด”ชวนทำเมนู…ฮอตดอกมหาสมุทร

สัปดาห์นี้ อาทิตย์ที่ 20 ตุลาคม รายการ “PeeKaBoo Junior จ๊ะเอ๋! เด็ด เด็ด”
(พีกาบู้ จูเนียร์ จ๊ะเอ๋! เด็ด เด็ด) น้องๆ หนูๆ จะได้รับชมแอนิเมชันผจญภัยแสนสนุก เรื่อง “ซอนนี่ เชฟป่วนก๊วนอร่อย” ตอน “ซีฟู๊ดซาวเดอร์” เมื่อเจ้าแรคคูนน้อยสองตัวแฟนพันธุ์แท้ของแก๊งฟู๊ดทรัคเกอร์มาขอร้องให้ช่วยทำซีฟู้ดชาวเดอร์ เมนูโปรดสุดพิเศษในงานเลี้ยงวันเกิดสุดแนว และน่าจดจำที่สุดในประวัติศาสตร์ให้พ่อของพวกเขา แต่กว่าจะทำเมนูนี้ได้สำเร็จ แก๊งฟู๊ดทรัคเกอร์ จะต้องเดินทางฝ่าคลื่นยักษ์ไปให้ได้ก่อน ไปร่วมลุ้นเอาใจช่วยพวกเขากัน!จากนั้นมาร่วมสนุกกับสองพิธีกร พี่ ‘พลอย’ พลอยไพลิน ลิมปนเวทยานนท์ – น้อง ‘ดานเท่’ อมานโด้ วิลเลียมส์ ในช่วง PeeKaboo Can Do สอนทำเมนู “ฮอตดอกมหาสมุทร” ฮอตดอกไส้แน่นทะลัก ทำง่ายๆ ได้ทีบ้าน นอกจากนี้ยังเพิ่มความรู้รอบตัวให้กับเด็กๆ กับช่วงพีกาบู้ปุจฉา-วิสัชนา ที่ดูง่ายๆ ได้ความรู้อย่างเพลิดเพลิน

พบกับความสนุกที่จะมาจ๊ะเอ๋พร้อมกันทุกบ้านด้วยพลังงานบวก แบบ Unlimited ในรายการ “PeeKaBoo Junior จ๊ะเอ๋! เด็ด เด็ด” (พีกาบู้ จูเนียร์ จ๊ะเอ๋! เด็ด เด็ด) ได้ทุกเช้าวันอาทิตย์ ตั้งแต่เวลา 07.30 น. ถึง 08.00 น. ทาง #ช่อง 7HD

สามารถรับชมพร้อมกันได้ทาง Website https://wwww.ch7.com/ & https://www.bugaboo.tv/home
และติดตามความสนุกแบบเต็มอิ่มกับช่วง PeeKaboo Can Do และ PeeKaBoo News ได้ที่ Bugaboo.TV และ Facebook : https://www.facebook.com/PeeKaBooJuniorOfficial/
YouTube : https://www.youtube.com/@Peekaboo_Juniorofficial
TikTok : https://www.tiktok.com/@peekaboo_juniorofficial