สบู่จิ๊กซอว์ ME by บุ๋ม-ตรีรัก ลด 50%

สบู่จิ๊กซอว์ ME by บุ๋ม-ตรีรัก จัดโปรสุดคุ้ม เชต 4 ก้อน ลด 50% เพียง 190 บาท
ลดข้ามปี มอบเป็นของขวัญปีใหม่ 2568 ซื้อได้ที่สยามพารากอน และทาง FB 

บริษัท ตรี ตรีรัก จำกัด ผู้จัดจำหน่ายสบู่จิ๊กซอว์ ME เกรดพรีเมี่ยม by คุณบุ๋ม ตรีรัก รักการดี สบู่จิ๊กซอว์ME เป็นสบู่ล้างหน้าออร์แกนิค ส่วนผสมจากสารสกัดธรรมชาติ เนื้อกลีเซอรีน อ่อนโยน ไร้สาร SLS / SLES ใช้ได้ทั้งผู้หญิงและผู้ชาย ช่วยฟื้นฟูและกู้ใบหน้าของทุกคนให้คืนกลับสู่ความสวยที่สดใส ดูอ่อนเยาว์ ชุ่มชื่น ไร้สิว และจุดด่างดำ ตอบโจทย์ทุกสภาพผิว มีทั้งหมดถึง 25 สูตร สามารถเลือกแมทซ์สูตรเองได้ตามสภาพผิวของผู้ใช้ ซึ่งแบ่งเป็น 3 กลุ่ม คือ1. กลุ่มคุณสมบัติของผิวพรรณ 10 สูตร 2. กลุ่มสครับ 6 สูตร และ 3. กลุ่มน้ำหอม 9 กลิ่น 

สบู่จิ๊กซอว์ ME จัดโปรโมชั่นสุดคุ้ม ลดข้ามปี 50% สบู่เชต 4 ก้อน สามารถคละสูตรได้ บรรจุในกล่องสวยเก๋ดูดี เพียง 190 บาท จากราคาปกติ 380 บาท สามารถซื้อได้ตั้งแต่วันนี้ – 6 กุมภาพันธ์ 2568 ที่สยามพารากอน ชั้น 4 โซน Bath Accessories และซื้อได้ตั้งแต่วันนี้ – 31 มกราคม 2568 ที่ Facebook : TRI_Gangsters จะซื้อสบู่จิ๊กซอว์ ME ใช้เองก็ดี หรือซื้อเป็นของฝากให้แก่คนที่คุณรักหรือของขวัญปีใหม่ 2568 ให้กับคนพิเศษของคุณ ซื้อให้ใครรับรองผู้รับต้องชอบแน่ๆ สบู่จิ๊กซอว์ ME เชต 4 ก้อนใช้ได้นานเป็นเดือน การันตีคุณภาพทุกก้อน

สามารถติดตามข่าวสารโปรโมชั่น และข้อมูลเพิ่มเติมของสบู่จิ๊กซอว์ ME เกรดพรีเมี่ยม ทั้ง 25 สูตร
ได้ที่ Facebook : TRI_Gangsters, Line : @tri_gangsters และเว็บไซต์ http://trigangsters.com
หรือติดต่อสอบถามที่โทรศัพท์  02 040 1466 และ 063 351 9649

เริ่มต้นเทศกาลแห่งความสุขกับพิธีเปิดไฟต้นคริสต์มาสประจำปี 


ณ โรงแรมโอเรียนเต็ล เรสซิเดนซ์ กรุงเทพฯ

กรุงเทพฯ ประเทศไทย วันพฤหัสบดีที่ 4 ธันวาคม พ.ศ.2567 – โรงแรมโอเรียนเต็ล เรสซิเดนซ์ กรุงเทพฯ ได้จัดพิธีเปิดไฟต้นคริสต์มาสประจำปี ฉลองเทศกาลคริสต์มาสและปีใหม่ที่กำลังจะมาถึง โดยมีแขกผู้มีเกียรติ ได้แก่ ฯพณฯ นายแพทริก เบิร์น เอกอัครราชทูตไอร์แลนด์ประจำประเทศไทย  พร้อมด้วยภริยา นางโซนาลี เบิร์น ฯพณฯ นางฮูดา อะลี ชะรีฟ เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐมัลดีฟส์ระเทศไทย และนางทัตสึโกะ วิเบิร์ก ให้เกียรติร่วมกันเปิดไฟต้นคริสต์มาส ร่วมกับผู้บริหารระดับสูงจากกลุ่มบริษัทออนิกซ์ ฮอสพิทาลิตี้ ได้แก่ คุณฮาโรลด์ เอ็นริเก โอลายา เลออน รองประธานอาวุโสและหัวหน้าฝ่ายปฏิบัติการ ออนิกซ์ ฮอสพิทาลิตี้ กรุ๊ป คุณวุฒิเวช เวชชบุษกร รองประธานอาวุโสและหัวหน้ากลุ่มการเงิน ออนิกซ์ ฮอสพิทาลิตี้ กรุ๊ป คุณพรทิพย์ เป้าทอง รองประธานกรรมการแผนกการตลาด ออนิกซ์ ฮอสพิทาลิตี้ กรุ๊ป คุณสุขมาล มอนเดล ผู้จัดการทั่วไปประจำพื้นที่กรุงเทพฯ และคุณยูวิน เทย์เลอร์ ผู้จัดการทั่วไปของโรงแรมโอเรียนเต็ล เรสซิเดนซ์ กรุงเทพฯ ได้ร่วมกันเฉลิมฉลองการเริ่มต้นเทศกาลแห่งความสุขท่ามกลางบรรยากาศอบอุ่น ณ บริเวณล็อบบี้สุดหรูของโรงแรม

ในปีนี้ โรงแรมโอเรียนเต็ล เรสซิเดนซ์ กรุงเทพฯ ยังเฉลิมฉลองความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่อีกสองด้าน ได้แก่ การได้รับรางวัล Michelin Key อันทรงเกียรติ ซึ่งยกย่องให้เป็นจุดหมายปลายทางที่ยอดเยี่ยมสำหรับประสบการณ์การเข้าพักสุดพิเศษ และการเข้าร่วมเป็นสมาชิก Small Luxury Hotels of the World (SLH) ซึ่งเป็นการก้าวสู่อีกขั้นสู่การเป็นโรงแรมระดับลักชัวรี่

นอกจากนี้ ภายในงานยังมีมุม CSR ที่นำเสนอผลิตภัณฑ์เพื่อความยั่งยืน อาทิ กระเป๋าหนังรีไซเคิลรักษ์โลก แก้วน้ำเก็บอุณหภูมิรักษ์โลก และตุ๊กตาหมี โดยรายได้ทั้งหมดหลังหักค่าใช้จ่ายจะนำไปบริจาคให้กับมูลนิธิ ออนิกซ์ ฮอสพิทาลิตี้ กรุ๊ป เพื่อสนับสนุนโครงการด้านความยั่งยืนและเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน 17 ประการขององค์การสหประชาชาติ

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมและสำรองห้องพักได้ที่ โรงแรมโอเรียนเต็ล เรสซิเดนซ์ กรุงเทพฯ โทร: +66 (0)2 125 9080

อีเมล: reservations.oriental@oriental-residence.com
เว็บไซต์: https://www.oriental-residence.com/bangkok

ศ.ดร.ไมค์ ชาน แบ่งปันประสบการณ์ การบำบัดด้วยเซลล์ต้นกำเนิดในการย้อนวัยทางชีวภาพ

ศาสตราจารย์ Dato’ Sri Dr. Mike KS Chan อายุ 64 ปี ชาวมาเลเซีย ประธาน European Wellness Biomedical Group เป็นนักวิทยาศาสตร์ นักวิจัย นักเขียน และนักการศึกษาเกี่ยวกับเซลล์ต้นกำเนิด ภูมิคุ้มกัน และการแพทย์ฟื้นฟูทางชีวภาพมานานกว่า 40 ปีในยุโรป

นอกจากนี้ Mike Chan ยังเป็นเจ้าของร่วมและผู้ก่อตั้ง European Wellness Biomedical Group ประเทศเยอรมนี ซึ่งเป็นกลุ่มธุรกิจที่บูรณาการในแนวตั้ง ประกอบด้วยแผนกสำคัญในด้านการวิจัยและพัฒนาทรัพย์สินทางปัญญา โรงงานผลิตไบโอเทคและไบโอฟาร์มา (เยอรมนีและสหภาพยุโรป) สถาบันการศึกษาและสถาบันวิชาชีพ การจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ทั่วโลกใน 80 ประเทศ และศูนย์การแพทย์เพื่อสุขภาพ การวินิจฉัย และการฟื้นฟูเยาวชน 26 แห่งในยุโรปและเอเชียแปซิฟิก รวมถึงสวิตเซอร์แลนด์ เยอรมนี กรีซ จีน ฮ่องกง มาเลเซีย ไทย ฟิลิปปินส์ เม็กซิโก เวียดนาม กัมพูชา ลาว และบังคลาเทศ โดยมีลูกค้าระดับ VIP ได้แก่ ประธานาธิบดี ประมุขแห่งรัฐ ฮอลลีวูด ฮ่องกง และคนดังของจีน รวมถึงคนรวยและคนดัง Mike Chan เป็นผู้แต่ง/ผู้ร่วมแต่งหนังสือวิทยาศาสตร์มากกว่า 50 เล่มเกี่ยวกับเซลล์ต้นกำเนิด (รวมถึงหนังสือสำหรับสัตว์) การแก่ชรา ความผิดปกติของระบบประสาท และพัฒนาการทางระบบประสาท โรคเมตาบอลิก การแพทย์ชีวภาพและการฟื้นฟู และสิ่งพิมพ์ทางวิทยาศาสตร์และทางการแพทย์มากกว่า 100 ฉบับในสหรัฐอเมริกาและสหราชอาณาจักร

นอกจากนี้ Mike Chan ยังได้รับรางวัลระดับนานาชาติหลายรางวัลในด้านเทคโนโลยีชีวภาพในยุโรปและตะวันออกกลาง นอกจากนี้ Mike Chan ยังมีสิทธิบัตรระหว่างประเทศมากกว่า 40 ฉบับทั่วโลกสำหรับผลิตภัณฑ์ชีวเภสัชภัณฑ์หลายรายการ รวมถึงเซลล์ต้นกำเนิด เปปไทด์ การบำบัดด้วยภูมิคุ้มกันตนเอง และสารอาหารทางเส้นเลือด

ตั้งแต่กลางทศวรรษที่ 80 ด้วยทุนเริ่มต้นเพียง 10,000 เหรียญสหรัฐ ไมค์มีประสบการณ์ตรงจากการอยู่ภายใต้การดูแลของนักบำบัดเซลล์ที่เก่งกาจที่สุดในโลกหลายคนซึ่งมาจากสหภาพโซเวียต เยอรมนี และสวิตเซอร์แลนด์ Mike Chan ผู้บุกเบิกการแพทย์ฟื้นฟูทางชีวภาพ การบำบัดด้วยเซลล์/ออร์กาโน และการวิจัยเซลล์ต้นกำเนิดในยุโรป และหลังจากนั้นเป็นผู้นำบริษัทสวิสและเยอรมนีหลายแห่งที่มีชื่อเสียงด้านการบำบัดด้วยเซลล์เพื่อต่อต้านวัยให้ขยายตัวอย่างรวดเร็วไปทั่วโลก โดยมีการดำเนินการที่หลากหลายตั้งแต่การวิจัยและพัฒนาและการพัฒนาผลิตภัณฑ์ ไปจนถึงการผลิตและการจัดจำหน่าย และต่อมามีการริเริ่มการศึกษาแพทย์เพื่อปรับปรุงการใช้งานทางคลินิกของชีวเภสัชภัณฑ์

นอกจากนี้ Mike Chan ยังเป็นผู้บุกเบิกในการนำการวิจัยเซลล์ต้นกำเนิดและการบำบัดด้วยเซลล์เข้าสู่ภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกเป็นครั้งแรกในช่วงกลางทศวรรษ 1980 และนับจากนั้นเป็นต้นมา ไมค์ได้ริเริ่มโครงการการศึกษาสำหรับแพทย์และตัวแทนจำหน่ายผ่านเครือข่ายการจำหน่ายผลิตภัณฑ์ที่ครอบคลุมใน 80 ประเทศ Mike Chan เป็นวิทยากรในที่สาธารณะบ่อยครั้ง โดยเขาได้บรรยาย สัมมนา และประชุมสัมมนามากกว่า 1,000 ครั้งทั่วโลกในสาขาวิทยาศาสตร์เทคโนโลยีชีวภาพ ชีวเภสัชภัณฑ์ ยาต้านวัย การแพทย์ฟื้นฟู และการบำบัดด้วยเซลล์ต้นกำเนิด

ปัจจุบัน Mike Chan ดำรงตำแหน่งคณะกรรมการและเป็นหัวหน้าคณะกรรมการวิทยาศาสตร์ด้านเวชศาสตร์ฟื้นฟูของ ESAAM (European Society of Preventative, Regenerative and Anti-Aging Medicine) ซึ่งเป็นองค์กรวิทยาศาสตร์ด้านการป้องกัน ฟื้นฟู และต่อต้านวัยที่ใหญ่ที่สุดในยุโรป ก่อตั้งในปี 2003 และดำรงตำแหน่งประธานสมาคมแห่งเอเชียด้วย นอกจากนี้ เขายังเป็นรองศาสตราจารย์ของ AASCP (American Academy of Stem Cell Physicians) แห่งสหรัฐอเมริกา ประธาน A4M (American Academy of Anti-Aging Medicine) แห่งสหรัฐอเมริกาสำหรับประเทศไทยและเอเชีย สมาคมการแพทย์ฟื้นฟูของญี่ปุ่น MMJ (Multi-Dimensional Holistic Medical Team Japan) และผู้ก่อตั้งร่วมของ FCTI Precursor Stem Cells แห่งยุโรป ในปี 2018 และ 2019 Mike Chan ร่วมกับทีมแพทย์ของเขาได้นำการท่องเที่ยวเชิงการแพทย์และสุขภาพและการท่องเที่ยวเพื่อการศึกษาที่สำคัญมาสู่สวิตเซอร์แลนด์ เยอรมนี และมาเลเซีย โดยมีแพทย์จากสหรัฐอเมริกา โปรตุเกส เบลเยียม จีน สเปน สหราชอาณาจักร อินโดนีเซีย ไทย สิงคโปร์ เวียดนาม ฟิลิปปินส์ และตะวันออกกลาง ร่วมด้วย

นอกจากนี้ Mike Chan ยังเป็นสมาชิกวุฒิสภา BWA ประเทศเยอรมนี (สมาคมเพื่อการพัฒนาเศรษฐกิจและการค้าต่างประเทศสำหรับจีน อินโดนีเซีย และมาเลเซีย) และเป็นผู้นำ จ้างงาน และทำงานร่วมกับนักวิทยาศาสตร์และนักวิชาการชั้นนำจากทั่วโลก เช่น MIT, Oxford, Cambridge Heidelberg University และ University of Irvine, California เป็นต้น

Mike Chan ได้รับรางวัลมากมาย สำหรับความเป็นผู้นำ ผู้ประกอบการ การรับรองคุณภาพ และรางวัลความสำเร็จจากยุโรปไปจนถึงจีน เขาเป็นสมาชิกในองค์กรวิชาการและสมาคมมากกว่า 20 แห่ง นอกจากยังปรากฏตัวบนหน้าปกมากกว่า 30 แห่งทั่วโลก

เขาอาศัยอยู่ในเมืองโกตาคินาบาลู ซาบาห์ และยุโรปมาเป็นเวลากว่าสามทศวรรษ ความปรารถนาของเขาในฐานะชาวจีนมาเลเซียที่ภาคภูมิใจซึ่งมีเชื้อสาย “บูดักกัมปุง” ถือเป็นแรงบันดาลใจมาโดยตลอด โดยเขาเป็นรุ่นที่สามของชาวจีนเชื้อสายฝูเจี้ยนที่ต้องการนำเทคโนโลยีชีวภาพ การวิจัย และการศึกษาที่ทันสมัยระดับโลกมาสู่มาเลเซียและจีน ปัจจุบัน เขากำลังทำงานร่วมกับรัฐบาลซานตงของจีนเกี่ยวกับศูนย์เทคโนโลยีชีวภาพ การศึกษา และการวิจัยด้านการแพทย์ชีวภาพ/ฟื้นฟู และการบาดเจ็บจากกีฬาและการฟื้นฟูร่างกาย และได้รับเชิญให้เป็นวิทยากรผู้เชี่ยวชาญเรื่องเซลล์ต้นกำเนิดและโภชนาการสำหรับโควิด (รวมถึงการระบาดของโควิด 14 กุมภาพันธ์ 2020)

ขอบคุณข้อมูล ศาสตราจารย์ Dato’ Sri Dr. Mike KS Chan จาก
https://european-wellness.eu/advisory/prof-dr-mike-chan/

𝐁𝐈𝐆𝐁𝐄𝐀𝐑 𝐄𝐀𝐓𝐄𝐑𝐘

𝐁𝐈𝐆𝐁𝐄𝐀𝐑 𝐄𝐀𝐓𝐄𝐑𝐘 ร้านสเต็กสลัดและอาหารไทยฟิวชั่น ย่านนนทบุรี เอาใจสายรักสุขภาพ ที่บอกได้เลยว่าใครที่ได้ไปเยือนต้องติดใจทุกราย ร้านสวยบรรยากาศดี ร้านอาหารในฟาร์มที่ให้บริการสเต็ก สลัด และอาหารไทยฟิวชั่น  ร้านนี้ที่เน้นผักสดจากฟาร์มของตัวเอง ในส่วนของคาเฟ่บรรยากาศสุดกรีนดีไซน์สวย มุมถ่ายรูปสุดปัง ต้องห้ามพลาดไปดูกันเลยดีกว่า 

นอกจากจะมีความร่มรื่น ดีไซน์สวย อาหาร เครื่องดื่มอร่อยแล้วยังทางร้านเก็บผักกันสด ๆ จากฟาร์มหน้าบ้านที่เป็นฟาร์มปลูกผักไฮโดรโปนิกส์ มาทำเป็นเมนูอาหารจานเด็ดเพื่อคนรักสุขภาพ มั่นใจได้ว่าปลอดสารพิษ และสดใหม่ทุกจานอย่างแน่นอน นอกจากเมนูข้างต้นแล้ว ทางร้านยังมีเมนูแนะนำอร่อย ๆ อีกมากมาย รวมถึงทางร้านยังมีของหวาน และกาแฟอีกด้วยนะ ครบจบในร้านเดียว คุ้มค่าที่จะไปลองกันให้ได้นะคะ

ร้านบิ๊กแบร์ อยู่ริมถนนชัยพฤกษ์ ย่านบางบัวทอง ตัวร้านหาไม่ยาก ทางเข้าร้านเด่นด้วยเสาสูงเหมือนต้นไม้สีเขียว มีน้องหมีปีนต้นไม้สูงๆ สองต้น  อยากให้คุณพาคนที่รักมาทานอาหารอร่อย วัตถุดิบคุณภาพดี สดจากฟาร์มด้านหน้า มาสูดอากาศบริสุทธิ์ สดชื่นให้เต็มปอดรับโอโซนธรรมชาติยามบ่าย ท่ามกลางธรรมชาติ เหมือนนั่งริมน้ำตกกลางป่าเขา สบายหายเหนื่อย เอาเป็นว่ามาให้ธรรมชาติโอบกอดมาสัมผัสชีวิตที่เรียบง่ายสบายๆ ที่ 𝐁𝐈𝐆𝐁𝐄𝐀𝐑 𝐄𝐀𝐓𝐄𝐑𝐘

พิกัดความอร่อย ร้าน 𝐁𝐈𝐆𝐁𝐄𝐀𝐑 𝐄𝐀𝐓𝐄𝐑𝐘 สเต็กสลัด และอาหารไทยฟิวชั่น ตั้งอยู่ในย่านนนทบุรี 

📍: Google map : 🐻𝐁𝐈𝐆𝐁𝐄𝐀𝐑  𝐄𝐀𝐓𝐄𝐑𝐘 🐻https://goo.gl/maps/LqNGguATJvXk4nMs7

⏰ : 10:00-21:00 น. เปิดทุกวัน 🚗 : มีที่จอดรถ 
🛵 : มีเดลิเวอรี่💻 : จัดเลี้ยง / ห้องประชุม / งานแต่ง ☎️ : 090 089 9992
Line@ :@bigbearthailand
คลิกแอดไลน์ https://lin.ee/fSbn7IR
IG : bigbear_eatery FB : bigbear_eatery

#bigbear #bigbeareatery #bigbearcafeandeatery
#รักใครให้พามา #รักใครให้พาไปทาน #น้ำตกในสวน
#ร้านอาหาร #ร้านอาหารนนทบุรี #vespatravel

แม่ครูลำดวน นันทะสุธา ศิลปินโอทอป

แม่ครูลำดวน นันทะสุธา ศิลปินโอทอป ผ้าทอลายขิดไหม หนึ่งเดียวของบ้านกุดแห่ จังหวัดหนองบัวลำภู

งาน OTOP Midyear 2025 ของดีของเด็ดจาก 4 ภาค ของกิน ของใช้ คุณภาพคัดสรรค์ทั่วฟ้าเมืองไทย โอทอป ศิลปิน ,โอทอปขึ้นเครื่อง, โอทอป 5 ดาว ,โอทอปชวนชิม ,โอทอป นาทีทองพบกับMini คอนเสิร์ต ศิลปิน มามอบความสุข อาคารชาเลนเจอร์ 1 – 3 อิมแพ็คเมืองทองธานี 7 – 15 มิถุนายน 68 เวลา 10.00-21.00น.

วันนี้ทีมงานมีโอกาสพบศิลปิน OTOP ในงาน OTOP Mid Year 2025 ในโซนศิลปินโอทอป นางลำดวน นันทะสุธา ผ้าขิดไหมบ้านกุดแห่ จังหวัดหนองบัวลำภู ผ้าขิดไหมเป็นมรดกทางวัฒนธรรมที่สืบทอดกันมาแต่โบราณ มีคุณค่าทางศิลปะและมีความสำคัญต่อวิถีชีวิตของคนในชุมชน ภูมิปัญญาท้องถิ่น ชวนคนไทยและนักท่องเที่มาร่วมกันสนับสนุนสินค้าภูมิปัญญาจากชุมชน เพื่อต่อลมหายใจให้กับงานศิลปหัตถกรรมของไทยกัน

ผ้าขิดไหม คือ ผ้าทอลายขิดที่ทอด้วยเส้นไหม โดยมีลวดลายที่เกิดจากการใช้เทคนิคการทอแบบ “ขิด” ลายขิดที่ปรากฏบนผ้ามีหลากหลายรูปแบบ ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจมาจากธรรมชาติ สิ่งแวดล้อม และความเชื่อต่างๆ เช่น ลายดอกไม้ ลายสัตว์ ซึ่งเป็นการสะกิดหรือยกเส้นด้ายยืนขึ้นแล้วสอดเส้นด้ายพุ่งพิเศษเข้าไป เพื่อสร้างลวดลายต่างๆ บนผืนผ้า ผ้าขิดไหมจึงเป็นผ้าที่มีความสวยงาม มีลวดลายที่โดดเด่น และมีความมันวาว 

นางลำดวน นันทะสุธา ประธานกลุ่มทอผ้าขิดไหมบ้านโพธิค้ำ บอกว่า ผ้าลายขิดในภาคอีสานอยากให้เศรษฐกิจในหมู่บ้านดีขึ้น คนในหมู่บ้านมีรายได้เสริมจากการทำไร่ทำนา ไม่ต้องจากบ้านไปทำงานกรุงเทพฯ หรือในต่างจังหวัดที่อยู่ห่างไกลครอบครัว และยังเป็นการช่วยอนุรักษ์และสืบทอดวัฒนธรรมการทอผ้าขิดไหมของชาวชุมชนชนบทให้คงอยู่สืบไป

โดยลายผ้าขิดไหม พบได้มากในภาคอีสาน เกิดจากแนวคิดของ ครู ลำดวน นันทะสุธา ประธานกลุ่มทอผ้าไหมบ้านกุด แห่ จนทำให้ลายผ้าขิดไหมบ้านกุดแห่ ได้รับรางวัล ชนะเลิศจากแนวความคิดที่นำคำขวัญจังหวัด หนองบัวลำภู “ศาลสมเด็จพระนเรศวรมหาราช อุทยานแห่งชาติภูเก้าภูพานคำ แผ่นดินธรรม หลวงปู่ขาว เด่นสกาวถ้ำเอราวัณ นครเขื่อนขันธ์ กาบแก้วบัวบาน” มาประยุกต์เป็นลายผ้าแบบใหม่ ที่มีความแปลกใหม่ ซึ่งประกอบด้วย ลายดอก พิกุล ลายหัวนาค ลายผีเสื้อ ผ้าขิดไหมสามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้หลากหลาย

ครู ลำดวน นันทะสุธา  เล่าถึง การทอผ้าขิดเป็นการทอโดยการใช้ไม้เขี่ย หรือสะกิดเส้นด้ายยืน เพื่อเปิดช่องให้สอดเส้นด้ายพุ่งพิเศษเข้าไปสร้างลวดลาย ลวดลายที่ได้มีสัมผัสได้ถึงความนูนลอยออกมาจากผืนผ้า  การฝึกให้กับคนในหมู่บ้านที่สนใจประกอบเป็นอาชีพเสริม ต่อมาสอนให้กับคนที่สนใจที่จะทำเป็นอาชีพ ตลอดจนเป็นห้องเรียนนอกสถานที่สำหรับโรงเรียนในเขตพื้นที่ อ.นากลาง ที่ต้องการให้นักเรียนได้ศึกษาเกี่ยวกับการทอผ้าที่นับวันจะหมดไปจากสังคมชนบท ซึ่งนอกจากจะสอนการทอผ้าแล้วยังสอนให้ออกแบบลวดลายผ้าทั้งลายโบราณและลายประยุกต์สมัยใหม่ เพื่อสร้างความหลากหลายของผ้าไหม จากการที่กลุ่มได้เป็นสมาชิกของมูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพพิเศษ ทำให้เป็นที่รู้จักและมีตลาดรองรับมากขึ้น

ผลิตภัณฑ์ของกลุ่ม ประกอบด้วย ผ้าขิดไหม ผ้าไหมมัดหมี่ ผ้าไหมพื้นเรียบ ผ้าไหมหางกระรอก ผ้าโสร่งไหม ผ้าลายลูกแก้ว ผลงานที่โดดเด่น คือ ได้รับพระราชทานรางวัลจากสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถในการประกวดผ้าขิดไหม ได้รับโล่สตรีดีเด่น จากอธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน ได้รับโล่ผู้นำสตรีดีเด่นของจังหวัดอุดรธานี ได้รับโล่ผลิตภัณฑ์ดีเด่นประเภทผ้าขิดไหม ได้รับโล่เกียรติบัตรจากการประกวดผ้าลายดอกบัว จากผู้ว่าราชการจังหวัดหนองบัวลำภู

ครูลำดวน นันทะสุธา โทร. 087 2198231

กระแสแรงเกินต้าน !! โครงการ GIT’s World Jewelry Design Awards 2025

ทุบสถิติใหม่ ทะลุกว่า 899 ผลงาน จาก 37 ประเทศทั่วโลก


โครงการประกวดออกแบบเครื่องประดับระดับโลก GIT’s World Jewelry Design Awards 2025 โดยสถาบันวิจัยและพัฒนาอัญมณีและเครื่องประดับแห่งชาติ (องค์การมหาชน) หรือ GIT ได้ปิดรับสมัครผลงานแบบวาดเป็นที่เรียบร้อยเมื่อวันที่ 31 พฤษภาคมที่ผ่านมา พร้อมสร้างสถิติใหม่ในปีนี้ด้วยจำนวนผลงานที่ส่งเข้าประกวดถึง 899 ชิ้น จาก 37 ประเทศทั่วโลกในปี 2025 โดยในปีนี้มีประเทศใหม่ที่เข้าร่วมเป็นครั้งแรกถึง 13 ประเทศ ได้แก่ ออสเตรเลีย, ออสเตรีย, เดนมาร์ก, เยอรมนี, ฮังการี, นิวซีแลนด์, นอร์เวย์, เปรู, รัสเซีย, แอฟริกาใต้, ศรีลังกา, ไอร์แลนด์ และเนเธอร์แลนด์แสดงให้เห็นถึงศักยภาพของโครงการในการขยายสู่เวทีระดับนานาชาติอย่างแท้จริง สะท้อนให้เห็นถึงความต่อเนื่องของกระแสความสนใจจากนักออกแบบทั่วโลก ขณะเดียวกัน ประเทศที่มีจำนวนผลงานเพิ่มขึ้นโดดเด่น ได้แก่ บราซิล, สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์, ฮ่องกง, สหราชอาณาจักร และตุรกี

การตัดสินรอบแบบวาดจัดขึ้นในวันที่ 13 มิถุนายน 2568 ณ โรงแรม Bangkok Marriott Hotel The Surawongse โดยมีคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิจากหลากหลายวงการทั้งในประเทศและต่างประเทศ อาทิ มล. คฑาทอง ทองใหญ่ นักวิชาการพาณิชย์เชี่ยวชาญ กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์, คุณบุญญาภา ศรีอรทัยกุล ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัท บิวตี้เจมส์ แฟคตอรี่ จำกัด, ผศ.ดร.วีรวัฒน์ สิริเวศมาส รองคณบดีฝ่ายวิจัยและวิเทศสัมพันธ์ คณะมัณฑนศิลป์ มหาวิทยาลัยศิลปากร, Ms. Sarah Zhuang นักออกแบบเครื่องประดับชื่อดังชาวฮ่องกง และ Mr. Alessio Boschi นักออกแบบเครื่องประดับชื่อดังชาวอิตาลี ซึ่งได้คัดเลือก 30 ผลงานเข้ารอบชิงรางวัล Popular Vote เปิดให้ประชาชนร่วมโหวตผลงานที่ชื่นชอบผ่านทางเว็บไซต์ www.gitwjda.com ตั้งแต่วันนี้ – 15 สิงหาคม 2568

นายสุเมธ ประสงค์พงษ์ชัย ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยและพัฒนาอัญมณีและเครื่องประดับแห่งชาติ เปิดเผยว่า ภายหลังจากการตัดสินผลงานรอบแบบวาด ซึ่งเป็นหนึ่งในไฮไลต์ของการแข่งขัน GIT’s World Jewelry Design Awards 2025 ผู้ผ่านการคัดเลือกในรอบนี้จะได้รับโอกาสสำคัญในการต่อยอดแนวคิดสร้างสรรค์สู่การผลิตต้นแบบผลงานจริง และลุ้นรางวัลรวมกว่า 7,000 ดอลลาร์สหรัฐ รวมถึงโล่พระราชทานจากสมเด็จพระเจ้าน้องนางเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี เตรียมพบกับพิธีมอบรางวัลสุดยิ่งใหญ่ ในวันที่ 26 สิงหาคม 2568 ณ ลาน Living Hall ชั้น 3 ศูนย์การค้าสยามพารากอน ขอเชิญทุกท่านร่วมเป็นเกียรติในพิธีมอบรางวัล และร่วมส่งแรงใจให้กับนักออกแบบรุ่นใหม่ที่พร้อมก้าวสู่เวทีระดับโลก”

GIT เล็งเห็นความสำคัญในการผลักดันสร้างนักออกแบบรุ่นใหม่ เพื่อพัฒนา สนับสนุน และส่งเสริมความเป็นศูนย์กลางการค้า การผลิตเครื่องประดับของประเทศไทยก้าวสู่ระดับโลก พร้อมกับได้มีการพัฒนา Platform ที่จะใช้เป็นช่องทางการติดต่อหรือนำเสนอผลงานของนักออกแบบสู่ผู้ประกอบการและผู้ค้าที่อยู่ในธุรกิจอัญมณีและเครื่องประดับของไทยเพื่อเป็นแนวทางในการสร้างสรรสิ่งใหม่ ๆ ให้กับอุตสาหกรรมอย่างต่อเนื่อง

#GIT #สถาบันวิจัยและพัฒนาอัญมณีและเครื่องประดับแห่งชาติ
#GIT’sWorldJewelryDesignAwards2025

ปลัด พม. รับรางวัล “กินรีทอง” มหาชน

ปลัด พม. รับรางวัล “กินรีทอง” มหาชน ครั้งที่ 10 สาขาผู้ส่งเสริมและสร้างโอกาสแก่สังคมตัวอย่าง พร้อมรับมอบไม้เท้าขาว จำนวน 100 อัน ก่อนส่งต่อให้คนพิการ

เมื่อวันที่ 10 มิถุนายน 2568 นายอนุกูล ปีดแก้ว ปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (ปลัด พม.) รับรางวัล “กินรีทอง” มหาชน ครั้งที่ 10 สาขาผู้ส่งเสริมและสร้างโอกาสแก่สังคมตัวอย่าง จากองค์กรส่งเสริมการศึกษาและวัฒนธรรมแห่งประเทศไทย พร้อมรับมอบไม้เท้าขาว จำนวน 100 อัน นำ
โดยนายกฤต สุวรรณวิไลกุล ประธานองค์กรส่งเสริมการศึกษาและวัฒนธรรมแห่งประเทศไทย ในฐานะประธานจัดงานรางวัลกินรีทอง มหาชน และคณะ โดยมีคณะผู้บริหารกระทรวง พม. เข้าร่วม ณ บริเวณโถง ชั้น 1 อาคารกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์


 นายอนุกูล กล่าวว่า ในนามของกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) ตนขอขอบคุณองค์กรส่งเสริมการศึกษาและวัฒนธรรมแห่งประเทศไทย นำโดยนายกฤต สุวรรณวิไลกุล ประธานองค์กรส่งเสริมการศึกษาและวัฒนธรรมแห่งประเทศไทย ในฐานะประธานจัดงานรางวัลกินรีทอง มหาชน ที่มอบรางวัลกินรีทอง มหาชน ครั้งที่ 10 สาขา ผู้ส่งเสริมและสร้างโอกาสแก่สังคมตัวอย่าง ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ที่แสดงให้เห็นว่ากระทรวง พม. กำลังขับเคลื่อนงานเพื่อสังคมมาในทิศทางที่องค์กรภาคสังคมได้เห็นความสำคัญในการช่วยเหลือประชาชน โดยหน่วยงานที่ทำงานด้านสังคมมีอยู่จำนวนมาก ซึ่งกระทรวง พม. ไม่สามารถทำงานเพียงหน่วยงานเดียวได้ ต้องทำงานร่วมกับภาคีเครือข่ายต่างๆ อย่างไรก็ตาม รางวัลกินรีทอง มหาชน ที่ได้รับในครั้งนี้ เป็นรางวัลและกำลังใจให้กับเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานทุกคนทั้งในภาคสนามและผู้บริหารกระทรวง พม. ทุกคน

นอกจากนี้ ต้องขอขอบคุณองค์กรส่งเสริมการศึกษาและวัฒนธรรมแห่งประเทศไทย ที่มอบไม้เท้าขาว จำนวน 100 อัน ให้แก่กระทรวง พม. ซึ่งจะส่งต่อไม้เท้าขาวดังกล่าวให้กับคนพิการทางการเห็น และผู้สูงอายุ กลุ่มเปราะบาง ซึ่งเป็นกลุ่มเป้าหมายของกระทรวง พม. เพื่อให้ได้ใช้ในชีวิตประจำวันและเกิดประโยชน์สูงสุดและมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นต่อไป

#พม #ศรส #esshelpme #5×5ฝ่าวิกฤติประชากร #พมหนึ่งเดียว
#วราวุธศิลปอาชา #ศบปภ #พันธกิจสำคัญ9ด้าน #กินรีทองมหาชน
#ไม้เท้าขาว #คนพิการทางการเห็น

Sheep  เปิดตัวเคส Disney Stitch Collection รับกระแสภาพยนตร์ลีโลแอนด์สติทช์ มาแรง

 Sheep เคสสัญชาติไทย ผู้ผลิตและออกแบบแก็ดเจ็ตที่ใส่ใจในทุกรายละเอียดของสินค้าและคำนึงถึงภาพลักษณ์การใช้งานของผู้ใช้ ซึ่งเป็นแบรนด์สินค้าไทยจากร้าน AppleSheep แหล่งรวมสินค้าแฟชั่นไลฟ์สไตล์และไอที  ร่วมกับดิสนีย์ เปิดตัวงานคอลแลปครั้งใหญ่   “Disney Stitch Collection” ตอบรับกระแสภาพยนตร์ Lilo& Stitch (ลีโลแอนด์สติทช์ ) ไลฟ์แอ็กชั่นแห่งปี  โดยถ่ายทอดภายใต้คอนเซ็ปต์  “โต้คลื่นกับ Stitch” ในรูปแบบดีไซน์เฉพาะตัวของแบรนด์ Sheep   

นายอภินันท์ ตรีรัตน์พิจารณ์ Founder&CEO บริษัท ชีพ แก็ดเจ็ต จำกัด ผู้บริหารแบรนด์ Sheep เปิดเผยถึงเรื่องนี้ว่า  “ตอนนี้กระแสโด่งดังเป็นอย่างมากกับภาพยนตร์    Lilo& Stitch( ลีโลแอนด์สติทช์ )ที่กำลังฉายในโรงภาพยนตร์อยู่ในขณะนี้  กับตัวการ์ตูนสุดแสบซ่าจอมป่วนของ “สติทซ์”  แน่นอนว่าSheepเป็นแบรนด์แฟชั่นไลฟ์สไตล์ และสร้างสรรค์เคสคาแรกเตอร์ต่างๆมากมาย ตอบโจทย์สายแฟชั่นที่เกาะติดเทรนด์ใหม่ๆอยู่เสมอ เป็นโอกาสดีที่เราได้ทำคอลเลคชั่นในช่วงเวลานี้  ให้แฟนๆแบรนด์Sheep ได้ใกล้ชิดกับตัวการ์ตูนสติทช์ผ่านคอลเลคชั่นล่าสุด Disney Stitch  เรายกจุดเด่นของคาแรกเตอร์สตริทช์ ตัวการ์ตูนจอมแสบที่สุดในจักรวาลดิสนีย์ สัตว์เลี้ยงหน้าตาประหลาดสีฟ้าสุดน่ารักของ ‘Lilo’  ที่เป็นซิกเนเจอร์ ออกมาอย่างชัดเจน  โดยเฉพาะโทนสีฟ้าและน้ำเงิน แฝงเรื่องราวการเดินทางพักผ่อนของ Stitch  บนเกาะฮาวาย   
ผ่านธีมหลัก 4 ลายดีไซน์ด้วยกัน  (Travel, Aloha, Flower และ Beach)    ลายTravelลายที่รวบรวมตั๋วจากการเดินทางไปเที่ยวจากที่ต่าง ๆ ของ ‘Stitch’, ลายAloha ลายที่เน้นการเล่นสุดซนของ ‘Stitch’ พร้อมโทนสีซัมเมอร์ดูสนุกสนาน,  ลายFlower ลายที่เหมาะกับคนชอบสีโทน ฟ้า-ชมพู พร้อมกับ ‘Stitch’ ที่กำลังเล่นดอกไม้  และ   ลายBeach พักผ่อนบนหาดทราย และกินไอศกรีมให้สดชื่นกับ ‘Stitch’  แต่ละลายที่แบรนด์Sheepทำมีจุดโดดเด่นที่แตกต่างกัน เพื่อให้ตอบโจทย์กับทุกสไตล์   ในรูปแบบลิขสิทธิ์แท้ ”  

โดยเคสคอลเลคชั่นนี้รองรับโทรศัพท์  ไอโฟน 11 – 16 และซัมซุง S23 Ultra – S25 Ultra พร้อมขบวนอุปกรณ์เสริมระดับพรีเมี่ยมแบบครบครัน สำหรับ iPhone, iPad และ MacBook และ Mouse Pad  MagSafe Griptok , MagSafeWallet, และ Phone Charm  รวมทั้งสินค้าอื่น ๆ อีกหลายรายการ  ซึ่งถือเป็นการเปิดตัวคอลเล็กชันครั้งใหญ่ที่ร่วมกับดิสนีย์สำหรับปีนี้  

คอลเลคชั่น Disney Stitch เราหยิบเทคนิคการพิมพ์ลายแบบพิเศษมาใช้ มีเคสแบบทึบและแบบใส รวมถึงลายพิมพ์สองชั้น เผยให้เห็นรายละเอียดที่พิถีพิถันในการออกแบบเป็นอย่างมาก  แต่ยังคงเน้นฟังก์ชั่นตอบโจทย์การใช้งานของลูกค้า ถือว่าเป็นงานท้าทายเป็นอย่างมาก เนื่องจากการออกแบบเราดึงภาพจำและเอกลักษณ์ของ Characterสตริทซ์มานำเสนออย่างดีที่สุด ขณะเดียวกันยังคงภาพลักษณ์ของผู้ใช้งานสินค้า  คือต้องตอบโจทย์สะท้อนตัวตนกับไลฟ์สไตล์ของผู้ใช้ได้เป็นอย่างดี   เพื่อส่งมอบความพิเศษสำหรับลูกค้าแบรนด์ Sheepทุกคน

โดยแบรนด์ Sheep ได้เปิดตัว   Disney Stitch Collection” ที่ชั้น1 สยามพารากอน ในงาน  ป๊อปอัป “Stitch Island Vibes” ซึ่งเป็นงานอีเว้นท์ใหญ่ของดิสนีย์ ที่เนรมิตงานบรรยากาศให้เป็นเกาะฮาวายจากเรื่องราวของสติทช์   ในวันที่ 22-26 พฤษภาคม 2568 ที่ผ่านมา  งานนี้แบรนด์Sheep ได้นำคอลเลคชั่นใหม่มาโชว์และจำหน่าย   ให้สาวกที่ชื่นชอบ สติทช์ได้ช้อปแบบจุใจ  นอกจากนั้นเรายังต้องการขยายฐานเปิดตลาดลูกค้าต่างประเทศเพิ่มกลุ่มลูกค้าใหม่ๆนอกเหนือจากลูกค้าคนไทย  เพราะสยามพารากอนเป็นศูนย์การค้าระดับโลก ที่เป็นศูนย์กลางการช้อปปิ้งที่เป็นจุดหมายปลายทางของนักเดินทางจากทั่วโลก   นอกจากที่นี่แล้ว แบรนด์Sheep ยังได้รับความไว้วางใจจากร้านค้าชั้นนำระดับประเทศมากมายให้วางสินค้าจำหน่าย    เรามั่นใจในคุณภาพและสินค้าที่ดีของแบรนด์และเรายังคงเดินหน้าสร้างสรรค์สินค้า พัฒนาในทุกมิติพร้อมปรับเปลี่ยนตัวเองเพื่อก้าวไปข้างหน้าอยู่เสมอ”   นายอภินันท์  กล่าวทิ้งท้าย

ปัจจุบันพบกับสินค้าแบรนด์Sheepได้ที่ Sheep Flagship Store ที่เซ็นทรัลเวิลด์และร้านAppleSheep   9 สาขาด้วยกัน  , เซ็นทรัลลาดพร้าว , แฟชั่นไอส์แลนด์ , เซ็นทรัลรามอินทรา, เซ็นทรัลเวสต์วิลล์ ,เมกา บางนา , ฟิวเจอร์พาร์ครังสิต 2 แห่ง , เซ็นทรัลขอนแก่น ,เซ็นทรัลหาดใหญ่ 

ติดต่อช่องทางออนไลน์ได้ที่   
www.applesheepth.com, Line: @applesheep,
Facebook: AppleSheep เคส ipadpro มีที่เก็บปากกา, Instagram: applesheepth, Tiktok: applesheepth

ดร.ปราชญ์​วลี​ อิทธิ​สวัสดิ์ เปิดออฟฟิศใหม่


ทำบุญเลี้ยงพระ เปิดออฟฟิศใหม่ บริษัทรักษาความปลอดภัยศูนย์ ไอ.พี(1979) จำกัด และ บริษัท สกายกรีน จำกัด

เมื่อวันศุกร์ที่ 16 พฤษภาคม 2568 คณะผู้บริหาร บริษัทรักษาความปลอดภัยศูนย์ ไอ.พี(1979) จำกัด และบริษัทสกายกรีน จำกัด จากประสบการณ์และความเชี่ยวชาญ นำโดย ดร.ปราชญ์​วลี​ อิทธิ​สวัสดิ์​ ทำบุญเลี้ยงพระ เพื่อทำการ เปิดออฟฟิศใหม่ ถนน นวมินทร์ เขตบึงกุ่มเป็นการกระทำที่ให้ผลบุญทั้งแก่เจ้าภาพและบริษัท รวมถึงเป็นการเสริมความเป็นสิริมงคลให้กับสถานที่ทำงานใหม่

โดยมี ญาติมิตรพวกพ้องร่วมแสดงความยินดี กันคับคั่ง ในการนี้ ทาง ครอบครัวอิทธิสวัสดิ์ และคณะผู้บริหารทั้ง2บริษัท  ได้ร่วมกัน บริจาคถวาย รถกระบะ 1 คันให้กับ วัดหุบเฉลา จังหวัดเพชรบุรี นำไว้ใช้เพื่อสาธารณกุศลต่อไป โดยมีผู้ช่วยเจ้าคณะจังหวัดเพชรบุรี และ พระอธิการเด่น  เจ้าอาวาสวัดหุบเฉลา รับมอบการบริจาคถวายครั้งนี้  ขอร่วมอนุโมทนา​บุญครั้งนี้ด้วย

เติมรักกลางเทือกเขาหิมาลัย กับ 7 เหตุผลที่คู่รักควรไปฮันนีมูนที่ภูฏาน

อากาศเย็นตลอดทั้งปีที่ประเทศภูฏานจะเป็นโอกาสสุดเพอร์เฟ็คท์ให้คู่รักได้เติมความรัก และความอบอุ่นซึ่งกันและกัน ท่ามกลางบรรยากาศสุดโรแมนติกซึ่งมีเทือกเขาหิมาลัยเป็นฉากหลังอันตระการตา นอกจากภูฏานจะสามารถคงไว้ซึ่งวัฒนธรรม และวิถีชีวิตอันเรียบง่ายแสนงดงาม ประเทศแห่งนี้ยังเต็มไปด้วยกิจกรรมอีกมากมายหลายประเภทที่เหมาะกับคู่รักซึ่งกำลังเริ่มต้นใช้ชีวิตด้วยกัน ลองดู 7 เหตุผลนี้ แล้วจะรู้ว่าทำไมภูฏานถึงเหมาะกับการฮันนีมูนมากที่สุด

  1. เพราะเป็นดินแดนที่งดงามและเงียบสงบ
    คนทั้งโลกรู้กันดีว่าภูฏานเป็น ‘ดินแดนแห่งความสุข’ ที่นี่เลยเหมาะกับคู่รักที่อยากหาที่พักผ่อนเงียบ ๆ ฟื้นฟูร่างกายหลังจากจัดงานแต่ง และได้ใช้เวลาแบบโรแมนติกร่วมกัน เนินเขาที่เรียงสลับคล้ายภาพวาด ศาสนสถานสมัยโบราณ และทัศนียภาพที่สวยตระการตาจะสร้างพลังบวกสำหรับการเริ่มต้นชีวิตคู่ ไม่ว่ากิจกรรมที่ทำร่วมกันจะเป็นการเดินสำรวจหมู่บ้านกลางหุบเขา หรือนอนฟังเสียงธรรมชาติ ภูฏานก็จะมอบช่วงเวลาแห่งความสุขอันสมบูรณ์แบบให้กับคุณได้
  2. เพราะเป็นประเทศที่เที่ยวได้ตลอดทั้งปี
    ฤดูหนาวช่วงต้นปีจะสร้างบรรยากาศโรแมนติกด้วยฉากหิมะที่ปกคลุมเทือกเขา และการผิงไฟในบ้านพักแบบโฮมสเตย์ หลังจากนั้นอากาศจะเริ่มอุ่นขึ้นเมื่อเข้าสู่ฤดูใบไม้ผลิ ท้องฟ้าแจ่มใส่ อากาศเย็นสบายตลอดวัน เหมาะแก่การถ่ายรูป และเดินป่าในเส้นทางที่ชอบ ส่วนคู่รักคู่ไหนที่รักสีเขียวชอุ่มของพืชพรรณ และวัตถุดิบท้องถิ่น ฤดูร้อนจะเป็นช่วงที่ผลิตผลทางการเกษตรออกผลให้ได้ลิ้มลองรสธรรมชาติ รวมถึงของป่าหายาก และยังมีเทศกาลเฉลิมฉลองให้เข้าร่วมอีกมากมาย
  3. เพราะจะสร้างนิยามใหม่ของความโรแมนติก
    ภูฏานไม่ได้มีแค่ธรรมชาติที่สวยงาม แต่ยังเต็มไปด้วยกิจกรรมที่จะสร้างรสชาติใหม่ของความรักให้กับคู่ของคุณ การเดินขึ้นเขาเพื่อไปยังวัดถ้ำเสือ (Tiger’s Nest Monastery) ซึ่งตั้งอยู่ริมหน้าผาเป็นประสบการณ์ที่ห้ามพลาด เพราะจะเป็นช่วงเวลาที่คู่รักจะได้พิชิตเส้นทางศักดิ์สิทธิไปพร้อมกัน หรือจะเยือนพูนาคาซอง ป้อมปราการศักดิ์สิทธิซึ่งเคยเป็นศูนย์บัญชาการสำคัญซึ่งตั้งอยู่ในเมืองพูนาคา อดีตราชธานีของภูฏาน หรือจะเพิ่มดีกรีความตื่นเต้นในหุบเขาอันเงียบสงบของเมือง บุมทัง และ กังเตย์ ซึ่งตั้งอยู่ห่างออกไปจากเมืองหลวง เหมาะกับการใช้เวลาอยู่ร่วมกันสองต่อสองเป็นที่สุด
  4. เพราะสามารถบอกรักกันและกันผ่านอาหารภูฏาน
    ร้านอาหารในประเทศภูฏานจะอบอวลไปด้วยบรรยากาศโรแมนติกแสนเรียบง่าย อย่างเช่นที่ร้าน Folk Heritage Museum ที่นำเสนออาหารภูฏานแท้ มาพร้อมกลิ่นอายของประเพณี และวัฒนธรรมแบบดั้งเดิม หรือที่ร้าน Babesa Village ซึ่งเสิร์ฟอาหารภูฏานแบบร่วมสมัยในบ้านเก่าอายุกว่า 600 ปี ส่วน Champaca Café ที่เมืองพาโร จะเป็นคาเฟ่เล็ก ๆ ตกแต่งได้น่ารัก เหมาะสำหรับนั่งพักระหว่างการเดินทาง หรือนั่งพูดคุยกันสองคนพร้อมจิบกาแฟกลิ่นหอม สำหรับใครที่อยากลองมื้อแบบมังสวิรัติ ต้องไปที่ร้าน Sonam Trophel และที่พลาดไม่ได้เลยก็คือร้าน Zombala เพราะเกี๊ยวนึ่ง และพริกผัดชีสของเขา อร่อยขึ้นชื่อจนกลายเป็นร้านที่คนท้องถิ่นแนะนำเป็นเสียงเดียวกัน
  5. เพราะรวมสถานที่เที่ยวสุดประทับใจ ถ่ายรูปมุมไหนก็สวย
    ใครที่กำลังมองหาสถานที่สำหรับฮันนีมูนเพื่อเก็บความทรงจำให้อยู่ในใจตลอดไป ภูฏานตอบโจทย์ในทุกข้อ เพราะภูมิประเทศในแต่ละจังหวัดมีความสวยงามที่แตกต่างกันไป เช่น จุดชมวิวโดชูล่า (Dochula Pass) ทางผ่านระหว่างไปเมืองพูนาคา ที่สามารถมองเห็นยอดเขาหิมะหลายแห่งซึ่งทอดตัวเรียงกันอย่างสวยงาม ส่วนสถานที่สุดโรแมนติกต้องยกให้เมืองพูนาคา ซึ่งเป็นที่ตั้งของโรงแรมระดับลักซ์ชูรีหลายแห่ง ได้ทั้งทิวทัศน์ของแม่น้ำ Mo Chhu และภูเขาอันเงียบสงบ เหมาะอย่างยิ่งสำหรับการถ่ายรูปในโมเม้นต์แสนโรแมนติก
  6. เพราะมีกิจกรรมผจญภัยสุดตื่นเต้น
    คู่รักคู่ไหนที่มาสายแอดเวนเจอร์ ก็มาใช้เวลาฮันนีมูนที่ภูฏานได้เหมือนกัน เพราะรวมกิจกรรมสุดตื่นเต้นให้เลือกทำได้มากมาย ตั้งแต่การล่องแก่งในแม่น้ำ Pho Chhu และ แม่น้ำ Mo Chhu พร้อมชมวิถีชีวิตสองข้างทาง และมองเห็นสะพานแขวนที่ประดับตกแต่งด้วยธงมนต์หลากสี ส่วนใครที่ฟิตร่างกายมาอย่างเต็มที่ต้องไม่พลาดเส้นทางเดินป่าสุดมันที่ Jomolhari และ Druk Path ซึ่งจะได้เห็นภูมิประเทศในมุมที่ต่างออกไป หลังเสร็จกิจกรรมแล้ว แนะนำให้ผ่อนคลายความเหนื่อยล้าด้วยการแช่น้ำหินร้อนสไตล์ดั้งเดิม ส่วนใครที่มองหาประสบการณ์ที่อยากทำสักครั้งในชีวิต ต้องลองเล่นพาราไกลดิ้งพร้อมกัน เพราะจะได้เห็นประเทศภูฏานในมุมสูง และได้เป็นหนึ่งในไม่กี่คู่รักที่เคยทำกิจกรรมนี้!
  7. เพราะเป็นประเทศที่ความลักซ์ชูรีผสานกับวัฒนธรรมได้อย่างลงตัว
    หากเคยลองมาเข้าพักในรีสอร์ทระดับลักซ์ชูรีที่ประเทศภูฏาน ก็จะพบว่าทั้งการตกแต่ง และงานบริการได้สอดแทรกประเพณี และวัฒนธรรมของความเป็นภูฏานไว้อย่างลงตัว คู่รักสามารถเลือกดินเนอร์สุดโรแมนติกใต้แสงเทียน ปรนนิบัติร่างกายกับทรีตเมนต์ที่ใช้สมุนไพรท้องถิ่น หรือเลือกห้องพักซึ่งสามารถมองเห็นวิวได้แบบพาโนรามาสุดลูกหูลูกตา ไม่ว่าคุณจะเข้าพักในรีสอร์ทแบบไหน ก็มั่นใจได้เลยว่าทุกประสบการณ์จะเต็มไปด้วยมนต์เสน่ห์ เหมาะสมกับการฮันนีมูนที่สุด

วิถีชีวิตอันเรียบง่ายที่โอบล้อมด้วยธรรมชาติแสนยิ่งใหญ่ จะทำให้เวลาที่ประเทศภูฏานเดินช้ากว่าที่ไหน เปิดโอกาสให้ทุกคู่รักได้มีช่วงเวลาคุณภาพ ราชอาณาจักรแห่งนี้จะมอบทั้งความสุข ความเป็นส่วนตัว และความทรงจำที่ดี ให้ภูฏานเป็นส่วนหนึ่งของการเริ่มต้นชีวิตคู่ของคุณ และสร้างรอยยิ้มได้ทุกครั้งเมื่อนึกถึง

ม.ราชภัฏเพชรบุรีร่วมกับ บพข. จัดกิจกรรมท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ วัฒนธรรมละมุน ธรรมชาติละไม เที่ยวสุขใจที่พริบพรี

เมื่อวันที่ 25-26 เมษายน 2568 ที่ผ่านมา มหาวิทยาลัยราชภัฏเพชรบุรี โดยอาจารย์ ดร.มธุรส ปราบไพรี อาจารย์ ดร.มลทิชาโอซาวะ และ อาจารย์ ดร.อัจฉราวรรณ เพ็ญวันศุกร์ จัดกิจกรรมทดสอบเส้นทางและกิจกรรมการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพจังหวัดเพชรบุรี “วัฒนธรรมละมุน ธรรมชาติละไม เที่ยวสุขใจที่พริบพรี” ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการวิจัยเรื่อง การพัฒนาเส้นทางการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพเพื่อยกระดับเมืองสร้างสรรค์ของจังหวัดเพชรบุรี ภายใต้แผนงานวิจัยการพัฒนากลยุทธ์ทางธุรกิจด้านการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพเพื่อยกระดับเมืองสร้างสรรค์ของจังหวัดเพชรบุรี ได้รับการสนับสนุนจากหน่วยบริหารและจัดการทุนด้านการเพิ่มความสามารถในการแข่งขันของประเทศ (บพข.) โดยครั้งนี้ได้นำภาคีที่เกี่ยวข้องด้านการท่องเที่ยวของจังหวัดเพชรบุรีทั้งภาครัฐและภาคเอกชน และคณะนักท่องเที่ยว เยือนชุมชนบางตะบูน ชุมชนย่านเมืองเก่าริมแม่น้ำเพชรบุรี ชุมชนบ้านถ้ำเสือ จำนวนกว่า 50 ราย โดยมี ผอ. ดวงใจ  คุ้มสอาด ผอ.ททท.สำนักงานเพชรบุรี  ร่วมเดินทาง  

อาจารย์ ดร.มธุรส ปราบไพรี มหาวิทยาลัยราชภัฏเพชรบุรี ผู้รับผิดชอบกิจกรรมในครั้งนี้ กล่าวว่า วัตถุประสงค์ของการทดสอบกิจกรรมครั้งนี้  เพื่อประเมินเส้นทางท่องเที่ยวเชิงสุขภาพที่ได้ออกแบบขึ้นมา ศึกษาความพึงพอใจของนักท่องเที่ยวและภาคีที่เกี่ยวข้อง อันจะนำไปสู่การพัฒนาและส่งเสริมเส้นทางและกิจกรรมการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพที่เหมาะสมของจังหวัดเพชรบุรี 

หลักการของการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ มีทั้งหมด 7 อ. ได้แก่
อ.1 คือ อาหาร รับประทานอาหารของท้องถิ่นที่ผ่านการปรุงและใช้วัตถุดิบในท้องถิ่น มีคุณค่าทางโภชนาการ ปลอดสารและปลอดภัย เช่น อาหารที่ช่วยต้านอนุมูลอิสระ ลดความเค็ม ความหวาน เป็นต้น

อ.2 อากาศ อยู่ในพื้นที่และสภาพแวดล้อมที่อากาศที่สะอาด บริสุทธิ์ มีความเป็นธรรมชาติ สร้างความสดชื่นเพื่อช่วยให้ปอดได้พักและรับออกซิเจน พื้นที่แหล่งท่องเที่ยวไม่แออัดและไม่มีมลพิษสูง เช่น ฝุ่น PM 2.5, ควัน, และสารเคมีโลหะหนัก เป็นต้น 

อ.3 ออกกำลังกาย การออกกำลังกายหรือทำกิจกรรมเพื่อบริหารร่างกายให้เกิดการเคลื่อนไหว ช่วยให้หัวใจทำงานได้ดี เพิ่มการกระตุ้นให้โลหิตไหลเวียนดี เสริมสร้างกล้ามเนื้อ บำบัดความเครียด ลดอาการเจ็บปวดบางอย่าง และช่วยให้ระบบประสาททำงานดีขึ้น 

อ.4 อารมณ์ มีอารมณ์รื่นเริง ยินดี มีความสุข ผ่อนคลาย สนุกสนาน มีจิตแจ่มใส และเพลิดเพลิน จากการทำกิจกรรมหรือการได้รับประสบการณ์ในการเรียนรู้ร่วมกับชุมชน

อ.5 อดิเรก ทำกิจกรรมสร้างสรรค์ เพิ่มพูนคุณค่า มีคุณค่าทั้งร่างกายและจิตใจ สร้างความสุข และสนุกสนาน

อ.6 อนามัย แหล่งท่องเที่ยว สินค้า และบริการที่มีความสะอาดและมีมาตรฐานด้านความปลอดภัย 

อ.7 อนุรักษ์ ใส่ใจและตระหนักการสร้างพฤติกรรมที่ยั่งยืนและสิ่งแวดล้อม เช่น การลดการใช้พลาสติก การจัดการขยะ การรักษาธรรมชาติ การสนับสนุนวัฒนธรรมพื้นบ้าน และการกระตุ้นจิตสำนึกในการดูแลโลกและตัวเอง”

อาจารย์ ดร.มธุรส ปราบไพรี กล่าวต่อว่า ทางคณะผู้จัดการทดสอบได้กำหนดลงพื้นที่ชุมชนเพื่อทำกิจกรรมไว้ 3 ชุมชน คือบางตะบูน อำเภอบางตะบูน จังหวัดเพชรบุรี ชุมชนย่านเมืองเก่าริมน้ำเพชรบุรี อำเภอเมือง จังหวัดเพชรบุรี ชุมชนบ้านถ้ำเสือ อำเภอแก่งกระจาน จังหวัดเพชรบุรี โดยถือเป็นชุมชนที่มีความเข้มแข็งด้านศักยภาพในการจัดการท่องเที่ยวและมีวัฒนธรรมที่โดดเด่น ในทั้ง 7 อ. ดังที่กล่าวมาแล้ว 

อย่างชุมชนบางตะบูน  ก็จัดให้มีการล่องเรือเพื่อชื่นชมและเพลิดเพลินไปกับวิถีชุมชนชาวประมง ทางนักท่องเที่ยวนอกจากจะได้ล่องเรือสัมผัสกับบรรยากาศของผืนน้ำและชุมชนสองฝั่งแม่น้ำ ยังมีการจัดให้ชมการเลี้ยง หอยนางรม หอยแครง หอยแมลงภู่ บริเวณปากอ่าวบางตะบูน ซึ่งถือว่าเป็นแหล่งเลี้ยงหอยอันดับต้นๆของประเทศ ซึ่งบริเวณท่าน้ำวัดปากอ่าวบางตะบูนมีเรือสำหรับนำนักท่องเที่ยวโดยไต๋เรือชาวชุมชนคอยให้การต้อนรับ 

ผู้จัดกิจกรรมกล่าวต่อว่า “นอกจากนี้ก่อนที่จะล่องเรือ ทางคณะผู้จัดฯ ได้นำสู่ศูนย์บริการนักท่องเที่ยว เทศบาลตำบลบางตะบูน เพื่อทำเวิร์คช็อป การทำผ้ามัดย้อม การนำวัสดุเหลือใช้เช่นแห อวนมาถักทอเป็นกระเป๋าใส่ของใช้ การทำขนมโบราณ การใช้ปลิงบำบัดนำเสนอการรักษาสุขภาพโดยปลิง 

ร้านยุ้งเกลือ ร้านอาหารที่ตั้งอยู่ที่บ้านแหลม ที่ที่ไม่ใช่เพียงแค่ร้านอาหารที่มีวิวสวยแต่อาหารอร่อย แต่ถือเป็นร้านที่มีตำนานของชุมชนนาเกลือที่ทำนาเกลือมากว่าแปดสิบปี และบอกเล่าเรื่องราวผ่านพิพิธภัณฑ์ของทางร้านโดยคนรุ่นที่สี่ 

การเยือนชุมชนย่านเมืองเก่าริมน้ำเพชรบุรี อำเภอเมือง เริ่มต้นกิจกรรมจากที่พิพิธภัณฑ์หนังใหญ่วัดพลับพลาชัย ด้วยการเวิร์คช็อปเรียนรู้การตอกกระดาษ ก่อนจะพาคณะเดินชมชุมชนเก่าริมน้ำ เดินชมสตรีทอาร์ทและวิถีชุมชน นมัสการหลวงพ่อวัดมหาธาตุ ก่อนจะกลับมาทานอาหารในแบบขันโตกโดยนำเสนออาหารเชิงสุขภาพ พร้อมกับรับชมหนังใหญ่และการฝึกเชิดหนังใหญ่ การแสดงละครชาตรีละครพื้นบ้านที่ส่งต่อทางวัฒนธรรมจากเด็กๆ และชาวชุมชน โดยพี่น้อย – คุณรมยกรณ์ เอราวัณ 

ในวันถัดมา เป็นการทำกิจกรรมที่ชุมชนถ้ำเสือที่ขึ้นชื่อด้านชุมชนท่องเที่ยวคาร์บอนต่ำ จัดให้ร่วมกิจกรรมสาธิตทำทองม้วนเงินล้าน ทองม้วนน้ำตาลโตนด โดย คุณยายวรรณา อินมี ผู้คิดสูตร  เรียนรู้กิจกรรมเสือปั้นไข่ สอนการทำไข่เค็มหมักดอกอัญชัญ การร่วมอนุรักษ์ป่าด้วยการนำเมล็ดพันธ์พืชไม้ยืนต้นไปปั้นดินยิงหนังสติ๊กเพื่อปลูกป่าโดย พี่น้อย – คุณสุเทพ พิมพ์ศิริ เป็นกิจกรรมสุดท้าย”

ทั้งนี้ หลังจากการทดสอบเส้นทางท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ ทางคณะผู้จัดกิจกรรมในครั้งนี้จะนำข้อเสนอแนะ ความคิดเห็นต่างๆ จากผู้ร่วมกิจกรรมเพื่อนำไปปรับปรุงและนำเสนอแก่หน่วยงานที่เกี่ยวกับการท่องเที่ยวต่อไป

ประสบความสำเร็จล้นหลาม ! JEJU Comeback

ประสบความสำเร็จล้นหลาม ! JEJU Comeback นักท่องเที่ยวไทยบินตรงแบบเช่าเหมาลำสู่เกาะเชจู คึกคัก “ทรู เวิลด์ ทราเวล” เผยเตรียมเปิดบริการอีกครั้งวันฉัตรมงคลนี้

สายการบินโลว์คอสอันดับ 1 ของเกาหลีใต้ Jeju Air บริษัท เจจูแอร์ จำกัดสายการบินราคาประหยัดแห่งแรกและที่ใหญ่ที่สุดของเกาหลีใต้ ที่มีฐานการบินหลักที่ท่าอากาศยานนานาชาติเชจู และมีสำนักงานใหญ่ในนครเชจูประกาศความร่วมมือกับบริษัททัวร์อันดับต้นๆ ของไทย ทรู เวิลด์ ทราเวล ทำสัญญาเช่าเหมาลำนำคนไทยเที่ยวเกาะเจจูแบบบินตรงจากกรุงเทพฯ สู่เกาะเจจู กลับมาอีกครั้งรอบสองปี เมื่อวันสงกรานต์ที่ผ่านมา

นาย ยุนโฮ ชอย ผู้จัดการประจำภูมิภาคเชจูแอร์ สำนักงานในประเทศไทย (Mr. Yoonho Choi Regional Manager Jeju Air) เผยว่า “สายการบิน เชจูแอร์ สายการบินโลวคอสอันดับ 1 ของเกาหลีใต้ มีความยินดีที่จะประกาศการกลับมาให้บริการเส้นทาง กรุงเทพ–เชจู อีกครั้งในรอบ 2 ปี ตั้งแต่นี้เป็นต้นไป สามารถเดินทางจากกรุงเทพฯ สู่เกาะเชจู ซึ่งเป็นเกาะที่สวยที่สุดของเกาหลีใต้ได้โดยไม่ต้องแวะพักหรือเปลี่ยนเครื่องให้ยุ่งยากอีกต่อไป

เส้นทางสู่เกาะเชจูได้เปิดให้บริการขึ้นอีกครั้ง ภายใต้สัญญาเช่าเหมาลำร่วมกับบริษัททัวร์ทรูเวิลด์แห่งประเทศไทย ซึ่งเป็นสถานที่ถ่ายทำซีรีส์เกาหลียอดนิยมของ Netflix เรื่อง “ยิ้มไว้ในวันที่ส้มไม่หวาน ” ขอเชิญชวนทุกท่านมาเยี่ยมชมความงดงามของเชจูด้วยกันนะครับ

นางสาวพธู ณ สงขลา ผู้บริหาร True World Travel กล่าวว่า “เกาะเชจูมีจุดเด่นตรงที่เป็นเกาะมรดกโลก ที่ใครหลายๆ คนอยากไปเที่ยว นอกจากนี้ยังมีจุดเด่นที่เป็นเมืองธรรมชาติ มีวัฒนธรรมที่น่าสนใจ ทุ่งดอกไม้สวยงาม เช่นทุ่งโบกอม โดยเฉพาะเป็นเมืองที่อากาศดี อากาศที่บริสุทธิ์ สามารถเที่ยวได้ตลอดทั้งปี รวมถึงการที่มี ซีรี่ส์เกาหลีหลายๆ เรื่องไปถ่ายทำกันที่นั่น เราก็ไม่หลุดเทรนด์ ก็จัดให้คนไทยได้ไปเที่ยวเกาะเชจูด้วยกัน

เกาะนี้ไม่ใช่เส้นทางใหม่ของบริษัทฯ สายการบินไม่ได้เปิดบินตรงมาสองปี รอบนี้กลับมา เรียกว่า Come back ให้กลับไปเที่ยวเกาะเชจูกันได้ง่าย ๆ แบบไม่ต้องแวะเมืองอื่น ทำให้คนไทยที่คิดถึงเกาะเชจูอยู่ได้ไปเที่ยวเกาะนี้ได้สมใจแบบสะดวกสบายเกาะเชจูรอบนี้ เปิดไฟล์ทนี้เป็นไฟล์ทแรก คือช่วงสงกรานต์ และไฟล์ทที่สองเป็นวันฉัตรมงคล ในวันที่ 2-5 พฤษภาคม 2568

ส่วนนักท่องเที่ยวต้องการท่องเที่ยว สามารถเที่ยวจองตรงกันได้บินตรงเหมือนกันและ หลังจากนั้นเดือนมิถุนายน สายการบินเปิดกันแบบระยะยาวไปจนถึงเดือนมีนาคมปีหน้า บินทุกสัปดาห์ สัปดาห์ละ 2 ไฟล์ท ให้คนไทยได้ไปเที่ยวกันอย่างเต็มที่

นอกจากเกาะเจจูแล้ว ทางทรู เวิลด์ ทราเวล ยังมีบริการเส้นทางหลักๆ ไม่ว่าจะเป็นปูซาน กรุงโซล และเส้นทางใหม่ที่หลายคนบอกว่า ปังมากคือการไปเที่ยวเกาหลีคู่กับญี่ปุ่น ตอนนี้เปิดสองเส้นทาง เกาหลีใต้คู่กับเมืองมัตสึยามะและเกาหลีใต้คู่ฮอกไกโด True World Travel รับจัดทัวร์ที่ประเทศเกาหลี ทัวร์ที่แรกที่ไปเกาะเซจูแบบบินตรงไปลงที่เซจู โปรแกรมท่องเที่ยวเมืองต่างๆ ของประเทศเกาหลี

ผู้บริหาร ทรู เวิลด์ ทราเวล กล่าวทิ้งท้ายว่า สำหรับผู้ที่สนใจ อยากไปท่องเที่ยวเกาหลีใต้กับทรู เวิลด์ ทราเวล ไม่ว่าจะเป็นโปรแกรมอะไร สามารถเดินทางได้ในแบบสบายกระเป๋า ได้เที่ยวจริง ไม่มีจกตา

สามารถจองผ่าน Facebook Fanpage : trueworldtravel และตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศได้ในราคาเท่ากับที่ทรู เวิลด์ ทราเวล”

ติดตามข่าว ข่าววันนี้ การเมือง สังคม ธุรกิจ เศรษฐกิจ ตลาดหุ้น สิ่งแวดล้อม ไลฟ์สไตล์ ดนตรี ศิลปะ ภาพยนตร์