ศ.ดร.ไมค์ ชาน แบ่งปันประสบการณ์ การบำบัดด้วยเซลล์ต้นกำเนิดในการย้อนวัยทางชีวภาพ

ศาสตราจารย์ Dato’ Sri Dr. Mike KS Chan อายุ 64 ปี ชาวมาเลเซีย ประธาน European Wellness Biomedical Group เป็นนักวิทยาศาสตร์ นักวิจัย นักเขียน และนักการศึกษาเกี่ยวกับเซลล์ต้นกำเนิด ภูมิคุ้มกัน และการแพทย์ฟื้นฟูทางชีวภาพมานานกว่า 40 ปีในยุโรป

นอกจากนี้ Mike Chan ยังเป็นเจ้าของร่วมและผู้ก่อตั้ง European Wellness Biomedical Group ประเทศเยอรมนี ซึ่งเป็นกลุ่มธุรกิจที่บูรณาการในแนวตั้ง ประกอบด้วยแผนกสำคัญในด้านการวิจัยและพัฒนาทรัพย์สินทางปัญญา โรงงานผลิตไบโอเทคและไบโอฟาร์มา (เยอรมนีและสหภาพยุโรป) สถาบันการศึกษาและสถาบันวิชาชีพ การจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ทั่วโลกใน 80 ประเทศ และศูนย์การแพทย์เพื่อสุขภาพ การวินิจฉัย และการฟื้นฟูเยาวชน 26 แห่งในยุโรปและเอเชียแปซิฟิก รวมถึงสวิตเซอร์แลนด์ เยอรมนี กรีซ จีน ฮ่องกง มาเลเซีย ไทย ฟิลิปปินส์ เม็กซิโก เวียดนาม กัมพูชา ลาว และบังคลาเทศ โดยมีลูกค้าระดับ VIP ได้แก่ ประธานาธิบดี ประมุขแห่งรัฐ ฮอลลีวูด ฮ่องกง และคนดังของจีน รวมถึงคนรวยและคนดัง Mike Chan เป็นผู้แต่ง/ผู้ร่วมแต่งหนังสือวิทยาศาสตร์มากกว่า 50 เล่มเกี่ยวกับเซลล์ต้นกำเนิด (รวมถึงหนังสือสำหรับสัตว์) การแก่ชรา ความผิดปกติของระบบประสาท และพัฒนาการทางระบบประสาท โรคเมตาบอลิก การแพทย์ชีวภาพและการฟื้นฟู และสิ่งพิมพ์ทางวิทยาศาสตร์และทางการแพทย์มากกว่า 100 ฉบับในสหรัฐอเมริกาและสหราชอาณาจักร

นอกจากนี้ Mike Chan ยังได้รับรางวัลระดับนานาชาติหลายรางวัลในด้านเทคโนโลยีชีวภาพในยุโรปและตะวันออกกลาง นอกจากนี้ Mike Chan ยังมีสิทธิบัตรระหว่างประเทศมากกว่า 40 ฉบับทั่วโลกสำหรับผลิตภัณฑ์ชีวเภสัชภัณฑ์หลายรายการ รวมถึงเซลล์ต้นกำเนิด เปปไทด์ การบำบัดด้วยภูมิคุ้มกันตนเอง และสารอาหารทางเส้นเลือด

ตั้งแต่กลางทศวรรษที่ 80 ด้วยทุนเริ่มต้นเพียง 10,000 เหรียญสหรัฐ ไมค์มีประสบการณ์ตรงจากการอยู่ภายใต้การดูแลของนักบำบัดเซลล์ที่เก่งกาจที่สุดในโลกหลายคนซึ่งมาจากสหภาพโซเวียต เยอรมนี และสวิตเซอร์แลนด์ Mike Chan ผู้บุกเบิกการแพทย์ฟื้นฟูทางชีวภาพ การบำบัดด้วยเซลล์/ออร์กาโน และการวิจัยเซลล์ต้นกำเนิดในยุโรป และหลังจากนั้นเป็นผู้นำบริษัทสวิสและเยอรมนีหลายแห่งที่มีชื่อเสียงด้านการบำบัดด้วยเซลล์เพื่อต่อต้านวัยให้ขยายตัวอย่างรวดเร็วไปทั่วโลก โดยมีการดำเนินการที่หลากหลายตั้งแต่การวิจัยและพัฒนาและการพัฒนาผลิตภัณฑ์ ไปจนถึงการผลิตและการจัดจำหน่าย และต่อมามีการริเริ่มการศึกษาแพทย์เพื่อปรับปรุงการใช้งานทางคลินิกของชีวเภสัชภัณฑ์

นอกจากนี้ Mike Chan ยังเป็นผู้บุกเบิกในการนำการวิจัยเซลล์ต้นกำเนิดและการบำบัดด้วยเซลล์เข้าสู่ภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกเป็นครั้งแรกในช่วงกลางทศวรรษ 1980 และนับจากนั้นเป็นต้นมา ไมค์ได้ริเริ่มโครงการการศึกษาสำหรับแพทย์และตัวแทนจำหน่ายผ่านเครือข่ายการจำหน่ายผลิตภัณฑ์ที่ครอบคลุมใน 80 ประเทศ Mike Chan เป็นวิทยากรในที่สาธารณะบ่อยครั้ง โดยเขาได้บรรยาย สัมมนา และประชุมสัมมนามากกว่า 1,000 ครั้งทั่วโลกในสาขาวิทยาศาสตร์เทคโนโลยีชีวภาพ ชีวเภสัชภัณฑ์ ยาต้านวัย การแพทย์ฟื้นฟู และการบำบัดด้วยเซลล์ต้นกำเนิด

ปัจจุบัน Mike Chan ดำรงตำแหน่งคณะกรรมการและเป็นหัวหน้าคณะกรรมการวิทยาศาสตร์ด้านเวชศาสตร์ฟื้นฟูของ ESAAM (European Society of Preventative, Regenerative and Anti-Aging Medicine) ซึ่งเป็นองค์กรวิทยาศาสตร์ด้านการป้องกัน ฟื้นฟู และต่อต้านวัยที่ใหญ่ที่สุดในยุโรป ก่อตั้งในปี 2003 และดำรงตำแหน่งประธานสมาคมแห่งเอเชียด้วย นอกจากนี้ เขายังเป็นรองศาสตราจารย์ของ AASCP (American Academy of Stem Cell Physicians) แห่งสหรัฐอเมริกา ประธาน A4M (American Academy of Anti-Aging Medicine) แห่งสหรัฐอเมริกาสำหรับประเทศไทยและเอเชีย สมาคมการแพทย์ฟื้นฟูของญี่ปุ่น MMJ (Multi-Dimensional Holistic Medical Team Japan) และผู้ก่อตั้งร่วมของ FCTI Precursor Stem Cells แห่งยุโรป ในปี 2018 และ 2019 Mike Chan ร่วมกับทีมแพทย์ของเขาได้นำการท่องเที่ยวเชิงการแพทย์และสุขภาพและการท่องเที่ยวเพื่อการศึกษาที่สำคัญมาสู่สวิตเซอร์แลนด์ เยอรมนี และมาเลเซีย โดยมีแพทย์จากสหรัฐอเมริกา โปรตุเกส เบลเยียม จีน สเปน สหราชอาณาจักร อินโดนีเซีย ไทย สิงคโปร์ เวียดนาม ฟิลิปปินส์ และตะวันออกกลาง ร่วมด้วย

นอกจากนี้ Mike Chan ยังเป็นสมาชิกวุฒิสภา BWA ประเทศเยอรมนี (สมาคมเพื่อการพัฒนาเศรษฐกิจและการค้าต่างประเทศสำหรับจีน อินโดนีเซีย และมาเลเซีย) และเป็นผู้นำ จ้างงาน และทำงานร่วมกับนักวิทยาศาสตร์และนักวิชาการชั้นนำจากทั่วโลก เช่น MIT, Oxford, Cambridge Heidelberg University และ University of Irvine, California เป็นต้น

Mike Chan ได้รับรางวัลมากมาย สำหรับความเป็นผู้นำ ผู้ประกอบการ การรับรองคุณภาพ และรางวัลความสำเร็จจากยุโรปไปจนถึงจีน เขาเป็นสมาชิกในองค์กรวิชาการและสมาคมมากกว่า 20 แห่ง นอกจากยังปรากฏตัวบนหน้าปกมากกว่า 30 แห่งทั่วโลก

เขาอาศัยอยู่ในเมืองโกตาคินาบาลู ซาบาห์ และยุโรปมาเป็นเวลากว่าสามทศวรรษ ความปรารถนาของเขาในฐานะชาวจีนมาเลเซียที่ภาคภูมิใจซึ่งมีเชื้อสาย “บูดักกัมปุง” ถือเป็นแรงบันดาลใจมาโดยตลอด โดยเขาเป็นรุ่นที่สามของชาวจีนเชื้อสายฝูเจี้ยนที่ต้องการนำเทคโนโลยีชีวภาพ การวิจัย และการศึกษาที่ทันสมัยระดับโลกมาสู่มาเลเซียและจีน ปัจจุบัน เขากำลังทำงานร่วมกับรัฐบาลซานตงของจีนเกี่ยวกับศูนย์เทคโนโลยีชีวภาพ การศึกษา และการวิจัยด้านการแพทย์ชีวภาพ/ฟื้นฟู และการบาดเจ็บจากกีฬาและการฟื้นฟูร่างกาย และได้รับเชิญให้เป็นวิทยากรผู้เชี่ยวชาญเรื่องเซลล์ต้นกำเนิดและโภชนาการสำหรับโควิด (รวมถึงการระบาดของโควิด 14 กุมภาพันธ์ 2020)

ขอบคุณข้อมูล ศาสตราจารย์ Dato’ Sri Dr. Mike KS Chan จาก
https://european-wellness.eu/advisory/prof-dr-mike-chan/

𝐁𝐈𝐆𝐁𝐄𝐀𝐑 𝐄𝐀𝐓𝐄𝐑𝐘

𝐁𝐈𝐆𝐁𝐄𝐀𝐑 𝐄𝐀𝐓𝐄𝐑𝐘 ร้านสเต็กสลัดและอาหารไทยฟิวชั่น ย่านนนทบุรี เอาใจสายรักสุขภาพ ที่บอกได้เลยว่าใครที่ได้ไปเยือนต้องติดใจทุกราย ร้านสวยบรรยากาศดี ร้านอาหารในฟาร์มที่ให้บริการสเต็ก สลัด และอาหารไทยฟิวชั่น  ร้านนี้ที่เน้นผักสดจากฟาร์มของตัวเอง ในส่วนของคาเฟ่บรรยากาศสุดกรีนดีไซน์สวย มุมถ่ายรูปสุดปัง ต้องห้ามพลาดไปดูกันเลยดีกว่า 

นอกจากจะมีความร่มรื่น ดีไซน์สวย อาหาร เครื่องดื่มอร่อยแล้วยังทางร้านเก็บผักกันสด ๆ จากฟาร์มหน้าบ้านที่เป็นฟาร์มปลูกผักไฮโดรโปนิกส์ มาทำเป็นเมนูอาหารจานเด็ดเพื่อคนรักสุขภาพ มั่นใจได้ว่าปลอดสารพิษ และสดใหม่ทุกจานอย่างแน่นอน นอกจากเมนูข้างต้นแล้ว ทางร้านยังมีเมนูแนะนำอร่อย ๆ อีกมากมาย รวมถึงทางร้านยังมีของหวาน และกาแฟอีกด้วยนะ ครบจบในร้านเดียว คุ้มค่าที่จะไปลองกันให้ได้นะคะ

ร้านบิ๊กแบร์ อยู่ริมถนนชัยพฤกษ์ ย่านบางบัวทอง ตัวร้านหาไม่ยาก ทางเข้าร้านเด่นด้วยเสาสูงเหมือนต้นไม้สีเขียว มีน้องหมีปีนต้นไม้สูงๆ สองต้น  อยากให้คุณพาคนที่รักมาทานอาหารอร่อย วัตถุดิบคุณภาพดี สดจากฟาร์มด้านหน้า มาสูดอากาศบริสุทธิ์ สดชื่นให้เต็มปอดรับโอโซนธรรมชาติยามบ่าย ท่ามกลางธรรมชาติ เหมือนนั่งริมน้ำตกกลางป่าเขา สบายหายเหนื่อย เอาเป็นว่ามาให้ธรรมชาติโอบกอดมาสัมผัสชีวิตที่เรียบง่ายสบายๆ ที่ 𝐁𝐈𝐆𝐁𝐄𝐀𝐑 𝐄𝐀𝐓𝐄𝐑𝐘

พิกัดความอร่อย ร้าน 𝐁𝐈𝐆𝐁𝐄𝐀𝐑 𝐄𝐀𝐓𝐄𝐑𝐘 สเต็กสลัด และอาหารไทยฟิวชั่น ตั้งอยู่ในย่านนนทบุรี 

📍: Google map : 🐻𝐁𝐈𝐆𝐁𝐄𝐀𝐑  𝐄𝐀𝐓𝐄𝐑𝐘 🐻https://goo.gl/maps/LqNGguATJvXk4nMs7

⏰ : 10:00-21:00 น. เปิดทุกวัน 🚗 : มีที่จอดรถ 
🛵 : มีเดลิเวอรี่💻 : จัดเลี้ยง / ห้องประชุม / งานแต่ง ☎️ : 090 089 9992
Line@ :@bigbearthailand
คลิกแอดไลน์ https://lin.ee/fSbn7IR
IG : bigbear_eatery FB : bigbear_eatery

#bigbear #bigbeareatery #bigbearcafeandeatery
#รักใครให้พามา #รักใครให้พาไปทาน #น้ำตกในสวน
#ร้านอาหาร #ร้านอาหารนนทบุรี #vespatravel

แม่ครูลำดวน นันทะสุธา ศิลปินโอทอป

แม่ครูลำดวน นันทะสุธา ศิลปินโอทอป ผ้าทอลายขิดไหม หนึ่งเดียวของบ้านกุดแห่ จังหวัดหนองบัวลำภู

งาน OTOP Midyear 2025 ของดีของเด็ดจาก 4 ภาค ของกิน ของใช้ คุณภาพคัดสรรค์ทั่วฟ้าเมืองไทย โอทอป ศิลปิน ,โอทอปขึ้นเครื่อง, โอทอป 5 ดาว ,โอทอปชวนชิม ,โอทอป นาทีทองพบกับMini คอนเสิร์ต ศิลปิน มามอบความสุข อาคารชาเลนเจอร์ 1 – 3 อิมแพ็คเมืองทองธานี 7 – 15 มิถุนายน 68 เวลา 10.00-21.00น.

วันนี้ทีมงานมีโอกาสพบศิลปิน OTOP ในงาน OTOP Mid Year 2025 ในโซนศิลปินโอทอป นางลำดวน นันทะสุธา ผ้าขิดไหมบ้านกุดแห่ จังหวัดหนองบัวลำภู ผ้าขิดไหมเป็นมรดกทางวัฒนธรรมที่สืบทอดกันมาแต่โบราณ มีคุณค่าทางศิลปะและมีความสำคัญต่อวิถีชีวิตของคนในชุมชน ภูมิปัญญาท้องถิ่น ชวนคนไทยและนักท่องเที่มาร่วมกันสนับสนุนสินค้าภูมิปัญญาจากชุมชน เพื่อต่อลมหายใจให้กับงานศิลปหัตถกรรมของไทยกัน

ผ้าขิดไหม คือ ผ้าทอลายขิดที่ทอด้วยเส้นไหม โดยมีลวดลายที่เกิดจากการใช้เทคนิคการทอแบบ “ขิด” ลายขิดที่ปรากฏบนผ้ามีหลากหลายรูปแบบ ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจมาจากธรรมชาติ สิ่งแวดล้อม และความเชื่อต่างๆ เช่น ลายดอกไม้ ลายสัตว์ ซึ่งเป็นการสะกิดหรือยกเส้นด้ายยืนขึ้นแล้วสอดเส้นด้ายพุ่งพิเศษเข้าไป เพื่อสร้างลวดลายต่างๆ บนผืนผ้า ผ้าขิดไหมจึงเป็นผ้าที่มีความสวยงาม มีลวดลายที่โดดเด่น และมีความมันวาว 

นางลำดวน นันทะสุธา ประธานกลุ่มทอผ้าขิดไหมบ้านโพธิค้ำ บอกว่า ผ้าลายขิดในภาคอีสานอยากให้เศรษฐกิจในหมู่บ้านดีขึ้น คนในหมู่บ้านมีรายได้เสริมจากการทำไร่ทำนา ไม่ต้องจากบ้านไปทำงานกรุงเทพฯ หรือในต่างจังหวัดที่อยู่ห่างไกลครอบครัว และยังเป็นการช่วยอนุรักษ์และสืบทอดวัฒนธรรมการทอผ้าขิดไหมของชาวชุมชนชนบทให้คงอยู่สืบไป

โดยลายผ้าขิดไหม พบได้มากในภาคอีสาน เกิดจากแนวคิดของ ครู ลำดวน นันทะสุธา ประธานกลุ่มทอผ้าไหมบ้านกุด แห่ จนทำให้ลายผ้าขิดไหมบ้านกุดแห่ ได้รับรางวัล ชนะเลิศจากแนวความคิดที่นำคำขวัญจังหวัด หนองบัวลำภู “ศาลสมเด็จพระนเรศวรมหาราช อุทยานแห่งชาติภูเก้าภูพานคำ แผ่นดินธรรม หลวงปู่ขาว เด่นสกาวถ้ำเอราวัณ นครเขื่อนขันธ์ กาบแก้วบัวบาน” มาประยุกต์เป็นลายผ้าแบบใหม่ ที่มีความแปลกใหม่ ซึ่งประกอบด้วย ลายดอก พิกุล ลายหัวนาค ลายผีเสื้อ ผ้าขิดไหมสามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้หลากหลาย

ครู ลำดวน นันทะสุธา  เล่าถึง การทอผ้าขิดเป็นการทอโดยการใช้ไม้เขี่ย หรือสะกิดเส้นด้ายยืน เพื่อเปิดช่องให้สอดเส้นด้ายพุ่งพิเศษเข้าไปสร้างลวดลาย ลวดลายที่ได้มีสัมผัสได้ถึงความนูนลอยออกมาจากผืนผ้า  การฝึกให้กับคนในหมู่บ้านที่สนใจประกอบเป็นอาชีพเสริม ต่อมาสอนให้กับคนที่สนใจที่จะทำเป็นอาชีพ ตลอดจนเป็นห้องเรียนนอกสถานที่สำหรับโรงเรียนในเขตพื้นที่ อ.นากลาง ที่ต้องการให้นักเรียนได้ศึกษาเกี่ยวกับการทอผ้าที่นับวันจะหมดไปจากสังคมชนบท ซึ่งนอกจากจะสอนการทอผ้าแล้วยังสอนให้ออกแบบลวดลายผ้าทั้งลายโบราณและลายประยุกต์สมัยใหม่ เพื่อสร้างความหลากหลายของผ้าไหม จากการที่กลุ่มได้เป็นสมาชิกของมูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพพิเศษ ทำให้เป็นที่รู้จักและมีตลาดรองรับมากขึ้น

ผลิตภัณฑ์ของกลุ่ม ประกอบด้วย ผ้าขิดไหม ผ้าไหมมัดหมี่ ผ้าไหมพื้นเรียบ ผ้าไหมหางกระรอก ผ้าโสร่งไหม ผ้าลายลูกแก้ว ผลงานที่โดดเด่น คือ ได้รับพระราชทานรางวัลจากสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถในการประกวดผ้าขิดไหม ได้รับโล่สตรีดีเด่น จากอธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน ได้รับโล่ผู้นำสตรีดีเด่นของจังหวัดอุดรธานี ได้รับโล่ผลิตภัณฑ์ดีเด่นประเภทผ้าขิดไหม ได้รับโล่เกียรติบัตรจากการประกวดผ้าลายดอกบัว จากผู้ว่าราชการจังหวัดหนองบัวลำภู

ครูลำดวน นันทะสุธา โทร. 087 2198231

กระแสแรงเกินต้าน !! โครงการ GIT’s World Jewelry Design Awards 2025

ทุบสถิติใหม่ ทะลุกว่า 899 ผลงาน จาก 37 ประเทศทั่วโลก


โครงการประกวดออกแบบเครื่องประดับระดับโลก GIT’s World Jewelry Design Awards 2025 โดยสถาบันวิจัยและพัฒนาอัญมณีและเครื่องประดับแห่งชาติ (องค์การมหาชน) หรือ GIT ได้ปิดรับสมัครผลงานแบบวาดเป็นที่เรียบร้อยเมื่อวันที่ 31 พฤษภาคมที่ผ่านมา พร้อมสร้างสถิติใหม่ในปีนี้ด้วยจำนวนผลงานที่ส่งเข้าประกวดถึง 899 ชิ้น จาก 37 ประเทศทั่วโลกในปี 2025 โดยในปีนี้มีประเทศใหม่ที่เข้าร่วมเป็นครั้งแรกถึง 13 ประเทศ ได้แก่ ออสเตรเลีย, ออสเตรีย, เดนมาร์ก, เยอรมนี, ฮังการี, นิวซีแลนด์, นอร์เวย์, เปรู, รัสเซีย, แอฟริกาใต้, ศรีลังกา, ไอร์แลนด์ และเนเธอร์แลนด์แสดงให้เห็นถึงศักยภาพของโครงการในการขยายสู่เวทีระดับนานาชาติอย่างแท้จริง สะท้อนให้เห็นถึงความต่อเนื่องของกระแสความสนใจจากนักออกแบบทั่วโลก ขณะเดียวกัน ประเทศที่มีจำนวนผลงานเพิ่มขึ้นโดดเด่น ได้แก่ บราซิล, สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์, ฮ่องกง, สหราชอาณาจักร และตุรกี

การตัดสินรอบแบบวาดจัดขึ้นในวันที่ 13 มิถุนายน 2568 ณ โรงแรม Bangkok Marriott Hotel The Surawongse โดยมีคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิจากหลากหลายวงการทั้งในประเทศและต่างประเทศ อาทิ มล. คฑาทอง ทองใหญ่ นักวิชาการพาณิชย์เชี่ยวชาญ กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์, คุณบุญญาภา ศรีอรทัยกุล ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัท บิวตี้เจมส์ แฟคตอรี่ จำกัด, ผศ.ดร.วีรวัฒน์ สิริเวศมาส รองคณบดีฝ่ายวิจัยและวิเทศสัมพันธ์ คณะมัณฑนศิลป์ มหาวิทยาลัยศิลปากร, Ms. Sarah Zhuang นักออกแบบเครื่องประดับชื่อดังชาวฮ่องกง และ Mr. Alessio Boschi นักออกแบบเครื่องประดับชื่อดังชาวอิตาลี ซึ่งได้คัดเลือก 30 ผลงานเข้ารอบชิงรางวัล Popular Vote เปิดให้ประชาชนร่วมโหวตผลงานที่ชื่นชอบผ่านทางเว็บไซต์ www.gitwjda.com ตั้งแต่วันนี้ – 15 สิงหาคม 2568

นายสุเมธ ประสงค์พงษ์ชัย ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยและพัฒนาอัญมณีและเครื่องประดับแห่งชาติ เปิดเผยว่า ภายหลังจากการตัดสินผลงานรอบแบบวาด ซึ่งเป็นหนึ่งในไฮไลต์ของการแข่งขัน GIT’s World Jewelry Design Awards 2025 ผู้ผ่านการคัดเลือกในรอบนี้จะได้รับโอกาสสำคัญในการต่อยอดแนวคิดสร้างสรรค์สู่การผลิตต้นแบบผลงานจริง และลุ้นรางวัลรวมกว่า 7,000 ดอลลาร์สหรัฐ รวมถึงโล่พระราชทานจากสมเด็จพระเจ้าน้องนางเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี เตรียมพบกับพิธีมอบรางวัลสุดยิ่งใหญ่ ในวันที่ 26 สิงหาคม 2568 ณ ลาน Living Hall ชั้น 3 ศูนย์การค้าสยามพารากอน ขอเชิญทุกท่านร่วมเป็นเกียรติในพิธีมอบรางวัล และร่วมส่งแรงใจให้กับนักออกแบบรุ่นใหม่ที่พร้อมก้าวสู่เวทีระดับโลก”

GIT เล็งเห็นความสำคัญในการผลักดันสร้างนักออกแบบรุ่นใหม่ เพื่อพัฒนา สนับสนุน และส่งเสริมความเป็นศูนย์กลางการค้า การผลิตเครื่องประดับของประเทศไทยก้าวสู่ระดับโลก พร้อมกับได้มีการพัฒนา Platform ที่จะใช้เป็นช่องทางการติดต่อหรือนำเสนอผลงานของนักออกแบบสู่ผู้ประกอบการและผู้ค้าที่อยู่ในธุรกิจอัญมณีและเครื่องประดับของไทยเพื่อเป็นแนวทางในการสร้างสรรสิ่งใหม่ ๆ ให้กับอุตสาหกรรมอย่างต่อเนื่อง

#GIT #สถาบันวิจัยและพัฒนาอัญมณีและเครื่องประดับแห่งชาติ
#GIT’sWorldJewelryDesignAwards2025

ปลัด พม. รับรางวัล “กินรีทอง” มหาชน

ปลัด พม. รับรางวัล “กินรีทอง” มหาชน ครั้งที่ 10 สาขาผู้ส่งเสริมและสร้างโอกาสแก่สังคมตัวอย่าง พร้อมรับมอบไม้เท้าขาว จำนวน 100 อัน ก่อนส่งต่อให้คนพิการ

เมื่อวันที่ 10 มิถุนายน 2568 นายอนุกูล ปีดแก้ว ปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (ปลัด พม.) รับรางวัล “กินรีทอง” มหาชน ครั้งที่ 10 สาขาผู้ส่งเสริมและสร้างโอกาสแก่สังคมตัวอย่าง จากองค์กรส่งเสริมการศึกษาและวัฒนธรรมแห่งประเทศไทย พร้อมรับมอบไม้เท้าขาว จำนวน 100 อัน นำ
โดยนายกฤต สุวรรณวิไลกุล ประธานองค์กรส่งเสริมการศึกษาและวัฒนธรรมแห่งประเทศไทย ในฐานะประธานจัดงานรางวัลกินรีทอง มหาชน และคณะ โดยมีคณะผู้บริหารกระทรวง พม. เข้าร่วม ณ บริเวณโถง ชั้น 1 อาคารกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์


 นายอนุกูล กล่าวว่า ในนามของกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) ตนขอขอบคุณองค์กรส่งเสริมการศึกษาและวัฒนธรรมแห่งประเทศไทย นำโดยนายกฤต สุวรรณวิไลกุล ประธานองค์กรส่งเสริมการศึกษาและวัฒนธรรมแห่งประเทศไทย ในฐานะประธานจัดงานรางวัลกินรีทอง มหาชน ที่มอบรางวัลกินรีทอง มหาชน ครั้งที่ 10 สาขา ผู้ส่งเสริมและสร้างโอกาสแก่สังคมตัวอย่าง ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ที่แสดงให้เห็นว่ากระทรวง พม. กำลังขับเคลื่อนงานเพื่อสังคมมาในทิศทางที่องค์กรภาคสังคมได้เห็นความสำคัญในการช่วยเหลือประชาชน โดยหน่วยงานที่ทำงานด้านสังคมมีอยู่จำนวนมาก ซึ่งกระทรวง พม. ไม่สามารถทำงานเพียงหน่วยงานเดียวได้ ต้องทำงานร่วมกับภาคีเครือข่ายต่างๆ อย่างไรก็ตาม รางวัลกินรีทอง มหาชน ที่ได้รับในครั้งนี้ เป็นรางวัลและกำลังใจให้กับเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานทุกคนทั้งในภาคสนามและผู้บริหารกระทรวง พม. ทุกคน

นอกจากนี้ ต้องขอขอบคุณองค์กรส่งเสริมการศึกษาและวัฒนธรรมแห่งประเทศไทย ที่มอบไม้เท้าขาว จำนวน 100 อัน ให้แก่กระทรวง พม. ซึ่งจะส่งต่อไม้เท้าขาวดังกล่าวให้กับคนพิการทางการเห็น และผู้สูงอายุ กลุ่มเปราะบาง ซึ่งเป็นกลุ่มเป้าหมายของกระทรวง พม. เพื่อให้ได้ใช้ในชีวิตประจำวันและเกิดประโยชน์สูงสุดและมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นต่อไป

#พม #ศรส #esshelpme #5×5ฝ่าวิกฤติประชากร #พมหนึ่งเดียว
#วราวุธศิลปอาชา #ศบปภ #พันธกิจสำคัญ9ด้าน #กินรีทองมหาชน
#ไม้เท้าขาว #คนพิการทางการเห็น