GIT สร้างปรากฏการณ์ 2 เวทีระดับโลก ดันไทยสู่ศูนย์กลางอัญมณีและเครื่องประดับสากล

สถาบันวิจัยและพัฒนาอัญมณีและเครื่องประดับแห่งชาติ (องค์การมหาชน) หรือ GIT ประกาศความสำเร็จ 2 เวทีการประกวดระดับโลก ตอกย้ำศักยภาพไทยสู่ศูนย์กลางอัญมณีและเครื่องประดับโลกประจำปี 2025 อย่างยิ่งใหญ่ การประกวดออกแบบเครื่องประดับโลก ครั้งที่ 19 (The 19th GIT’s World Jewelry Design Awards 2025) และ การประกวดพลอยเจียระไนโลก (GIT’s World Challenge Gems Faceting Master 2025) การจัดงานทั้งสองไม่เพียงแต่เป็นการแข่งขันเพื่อชิงรางวัลอันทรงเกียรติ แต่ยังเป็นการยกระดับมาตรฐานอุตสาหกรรมอัญมณีและเครื่องประดับของไทยให้ก้าวสู่ระดับโลกอย่างสง่างาม พร้อมทั้งสร้างภาพลักษณ์ประเทศไทยในฐานะศูนย์กลางอัญมณีและเครื่องประดับของโลก โดยมีนายฉันทวิชญ์ ตัณฑสิทธิ์ รมช.พาณิชย์ เป็นประธานในพิธีมอบรางวัล นางนันทวัน ศกุณตนาค ประธานคณะกรรมการสถาบันวิจัยและพัฒนาอัญมณีและเครื่องประดับแห่งชาติ กล่าวรายงานการจัดงาน ณ ลาน Living Hall ชั้น 3 ศูนย์การค้าสยามพารากอน 

นายฉันทวิชญ์ ตัณฑสิทธิ์ รมช.พาณิชย์ กล่าวว่า อุตสาหกรรมอัญมณีและเครื่องประดับไทย ถือเป็นหนึ่งในอุตสาหกรรมที่มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อระบบเศรษฐกิจของประเทศ ทั้งด้านการสร้างงาน การค้า และการลงทุน โดยมีมูลค่าการส่งออกรวมปีละกว่า 5 แสนล้านบาท ซึ่งล้วนมาจากภูมิปัญญาของช่างไทยที่สั่งสมกันมาทั้งความคิดสร้างสรรค์ในการออกแบบและความประณีตวิจิตรในการสร้างสรรค์ชิ้นงานจนเป็นที่ยอมรับในระดับโลก

GIT เป็นหน่วยงานในกำกับของกระทรวงพาณิชย์ ซึ่งที่ผ่านมาได้ส่งเสริมการสร้างนักออกแบบเครื่องประดับรุ่นใหม่ให้เป็นที่รู้จักในระดับสากล ผ่านการประกวดออกแบบเครื่องประดับระดับโลก ปีนี้จัดขึ้นต่อเนื่องเป็นครั้งที่ 19 ได้รับความสนใจอย่างล้นหลามจากนักออกแบบทั่วโลกส่งผลงานเข้าร่วมประกวดและได้ส่งเสริมศักยภาพและทักษะการเจียระไนพลอยของช่างไทย ผ่านการประกวดพลอยเจียระไนระดับโลก 

ซึ่งปีนี้มีพลอยเจียระไนทั้งพลอยเนื้อแข็งและพลอยทั่วไป โดยการจัดประกวดดังกล่าว ถือเป็นการแสดงศักยภาพและสร้างภาพลักษณ์ประเทศไทยในฐานะ “ศูนย์กลางการค้าอัญมณีและเครื่องประดับโลก” และเป็นการช่วยยกระดับมาตรฐานอุตสาหกรรมอัญมณีและเครื่องประดับของไทยสู่ระดับสากล”

นายสุเมธ ประสงค์พงษ์ชัย ผู้อำนวยการ สถาบันวิจัยและพัฒนาอัญมณีและเครื่องประดับแห่งชาติ กล่าวว่า จุดประสงค์หลักของการจัดโครงการคือการเปิดให้นักออกแบบรุ่นใหม่ได้แสดงความคิดสร้างสรรค์ ผลงานการออกแบบไม่เพียงสร้างรายได้และความแตกต่างทางการแข่งขัน แต่ยังเป็นการเสริมสร้าง “Soft Power” ที่ช่วยเผยแพร่เอกลักษณ์ของแต่ละประเทศออกมาผ่านเครื่องประดับ ในขณะเดียวกันยังเป็นสนามแห่งการเรียนรู้ การแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ และการต่อยอดสู่นวัตกรรมใหม่ ๆ ทั้งสองโครงการนี้ไม่เพียงแต่เป็นเวทีการแข่งขัน แต่คือเวทีแห่งการสร้างสรรค์และการเชื่อมโยง ที่จะผลักดันศักยภาพของไทยให้ก้าวไกลในตลาดโลก

GIT’s World Jewelry Design Awards ในปีนี้ได้รับความสนใจอย่างล้นหลามจากนักออกแบบทั่วโลก โดยมีผลงานส่งเข้าร่วมมากถึง 899 ผลงาน จาก 37 ประเทศ แบ่งเป็นผลงานจากต่างประเทศ 475 ผลงาน และจากประเทศไทย 424 ผลงาน นับเป็นสถิติที่สะท้อนถึงการเติบโตอย่างต่อเนื่องของการประกวดในระดับนานาชาติ ผู้ชนะจะได้รับรางวัลมูลค่ารวมกว่า 7,000 เหรียญสหรัฐ (กว่า 230,000 บาท) พร้อม โล่พระราชทานสมเด็จพระเจ้าน้องนางเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี ซึ่งนับเป็นเกียรติสูงสุดในสายอาชีพ

นายสุเมธ กล่าวต่อว่า “ในอีกด้านหนึ่ง การประกวด GIT’s World Challenge Gems Faceting Master 2025 ได้รับผลงานรวม 55 เม็ด แบ่งเป็นพลอยเนื้อแข็ง 18 เม็ด และพลอยทั่วไป 37 เม็ด แต่ละผลงานสะท้อนให้เห็นถึงทักษะ ความวิริยะ และความประณีตที่ทัดเทียมมาตรฐานสากล โดยเวทีนี้ยังเป็นโอกาสในการแลกเปลี่ยนประสบการณ์และองค์ความรู้ระหว่างช่างฝีมือไทยกับช่างจากต่างประเทศ อันจะนำไปสู่การพัฒนาเทคนิคและยกระดับคุณภาพอุตสาหกรรมการเจียระไนของไทยให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น

ความสำเร็จของการจัดทั้งสองโครงการในปีนี้ไม่เพียงเป็นเครื่องพิสูจน์ถึงศักยภาพของนักออกแบบและช่างฝีมือไทย แต่ยังเป็นหมุดหมายสำคัญในการเพิ่มมูลค่าเศรษฐกิจของอุตสาหกรรมอัญมณีและเครื่องประดับ ตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ ตั้งแต่การผลิต ออกแบบ เจียระไน ไปจนถึงการสร้างแบรนด์และขยายตลาดระดับโลก GIT จึงตอกย้ำบทบาทในฐานะผู้นำการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมอัญมณีและเครื่องประดับไทยให้เป็นที่ยอมรับในเวทีโลก ทั้งด้านคุณค่าเชิงศิลปะ เศรษฐกิจ และวัฒนธรรม 

อีกทั้งยังได้รับกับสนับสนุนโดยรัฐบาลไทย ทั้งการส่งเสริมให้ประเทศไทยเป็น Gem and Jewelry Hub ของโลก การยกเว้นภาษีนำเข้าอัญมณีบางประเภท การสนับสนุนการสร้างมาตรฐานอัญมณี และการผลักดันให้เกิดการพัฒนาทักษะแรงงาน เพื่อสร้างความเข้มแข็งให้แก่ผู้ประกอบการไทยและเชื่อมโยงกับตลาดโลกอีกด้วย”

นอกเหนือจากความสำเร็จในการจัดการประกวดทั้งสองเวทีนี้ ในเดือนกันยายน GIT ยังเตรียมจัดงานระดับนานาชาติที่มีความสำคัญต่อการขับเคลื่อนอุตสาหกรรม ร่วมกับกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ งาน Bangkok Gem & Jewelry Fair (BGJF) จะจัดขึ้นในวันที่ 9 – 13 กันยายน 2568 เป็นงานแสดงสินค้าอัญมณีและเครื่องประดับที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ดึงดูดผู้ซื้อและผู้ผลิตจากทั่วโลก ถือเป็นงานสำคัญที่สร้างมูลค่าการส่งออกมหาศาลและเสริมภาพลักษณ์ไทยในฐานะศูนย์กลางการค้าอัญมณีโลก  

และอีกหนึ่งงานสำคัญอย่าง International Gem and Jewelry Conference (GIT 2025) จะจัดขึ้นในวันที่ 8 – 9 กันยายน 2568 งานสัมมนาวิชาการนานาชาติที่รวมผู้เชี่ยวชาญ นักวิจัย และผู้ประกอบการจากทั่วโลก เพื่อแลกเปลี่ยนองค์ความรู้และนำเสนอนวัตกรรมใหม่ ๆ ในแวดวงอัญมณีและเครื่องประดับ อันจะช่วยยกระดับมาตรฐานและสร้างโอกาสทางธุรกิจให้กับอุตสาหกรรมไทยให้เติบโตต่อไป

ด้านผลการประกวดพลอยเจียระไนระดับโลก ภายใต้หัวข้อ “Jewel Mastery” ได้แก่ 

รางวัลชนะเลิศ รางวัลมูลค่า 2,000 เหรียญสหรัฐ พร้อมโล่รางวัลพระราชทานจาก สมเด็จพระเจ้าน้องนางเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี ได้แก่  คุณภูเบศ สินสวัสดิ์  

รางวัลรองชนะเลิศลำดับ 1 ได้รับเงินรางวัล 1,000 เหรียญสหรัฐ พร้อมโล่เกียรติยศ จะเป็นของ คุณวีริศ แว่นไธสงค์

รางวัลรองชนะเลิศลำดับ 2 ได้รับเงินรางวัล 500 เหรียญสหรัฐ พร้อมโล่เกียรติยศ ได้แก่ คุณจันทร์หอม ปัญญากุล     

รางวัลที่ 4  รางวัลความคิดสร้างสรรค์ในการเจียระไน  ได้รับเงินรางวัล 500 เหรียญสหรัฐ พร้อมโล่เกียรติยศ ได้แก่ คุณเซ​ จึ่งต๊ะ

สำหรับผลการประกวดออกแบบเครื่องประดับครั้งที่ 19 (GIT’s World Jewelry Design Awards 2025) ได้แก่ 

–  รางวัลชนะเลิศ  เงินรางวัลมูลค่า 3,000 เหรียญสหรัฐ พร้อมพร้อมโล่พระราชทาน จากสมเด็จพระเจ้าน้องนางเธอเจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี กรมพระศรีสวางควัฒนวรขัตติยราชนารี

  Mr. Tan Minghui ผลงานชื่อ In the prime of life ผลิตโดย บริษัท บริษัท บิวตี้เจมส์แฟคตอรี่ จำกัด 

– รางวัลรองชนะเลิศ อันดับ 1  เงินรางวัลมูลค่า 2,000 เหรียญสหรัฐ พร้อมโล่เกียรติยศ 

Ms. Shirin Kazemi ผลงานชื่อ: Time network ผลิตโดย บริษัท ชายน์นิ่ง โกลด์ จำกัด

–  รางวัลรองชนะเลิศ อันดับ 2   เงินรางวัลมูลค่า 1,000 เหรียญสหรัฐ พร้อมโล่เกียรติยศ

Mrs. Qiu Linjie ผลงานชื่อ: Tomorrow’s Beauty ผลิตโดยบริษัท บริษัท เทวิกา จิวเวลรี่ จํากัด

– รางวัลชมเชย  เงินรางวัลมูลค่า 500  เหรียญสหรัฐ พร้อมโล่เกียรติยศ     

Mr. Hamed Ja’afari นําเสนอผลงานชื่อ: Echo of Eternity ผลิตโดย บริษัท รินญาดา จิวเวลรี่ จํากัด

– รางวัล GIT Popular Design ๒๐๒๕    เงินรางวัลมูลค่า 500  เหรียญสหรัฐ พร้อมโล่เกียรติยศ มีผู้ร่วมโหวตผลงานจากทั่วทุกมุมโลก กว่า 300,000 คะแนน คุณพลวัฒน์ ชอบสน กับผลงานชื่อ Giza Mustaqbal ด้วยคะแนนโหวต 123,259 คะแนน

การกลับมาอย่างยิ่งใหญ่: DISNEY TOY EXPO THAILAND 2025 ครั้งที่ 2

 การกลับมาอย่างยิ่งใหญ่: DISNEY TOY EXPO THAILAND 2025 ครั้งที่ 2จัดเต็มความสุขตลอด 4 วัน พบกับแบรนด์ของเล่น ของสะสมคอลเลกชันลิมิเต็ดจากเหล่าคาแรกเตอร์ต่างๆ

ดิสนีย์เดินหน้าสร้างสรรค์กิจกรรมระดับโลกในประเทศไทย ประกาศจัดงาน DISNEY TOY EXPO THAILAND 2025 ครั้งที่ 2 ซึ่งถือเป็นหนึ่งในงานรวมของเล่นและสินค้าคอลเลกชันลิขสิทธิ์ดิสนีย์ที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้  งานมหกรรมครั้งนี้จะนำเสนอสินค้าลิขสิทธิ์ดิสนีย์จากแบรนด์ชั้นนำทั่วโลกกว่า 2,000 รายการ ครอบคลุมพื้นที่จัดงานกว่า 1,700 ตารางเมตร ที่เซ็นทรัลเวิลด์ แฟน ๆ เตรียมพบกับเซอร์ไพรส์มากมาย ทั้งกิจกรรม Meet & Greet สินค้าลิมิเต็ดเอดิชัน และกิจกรรมสุดพิเศษอีกมากมาย ตอกย้ำกระแสเติบโตของตลาดแฟนด้อม สินค้าคาแรกเตอร์ ของสะสม และอาร์ตทอย เข้าร่วมงานฟรี! ตลอด 4 วันเต็ม ตั้งแต่ 4–7 กันยายน 2568

งานนี้จัดขึ้นโดย บริษัท เดอะ วอลท์ ดิสนีย์ (ประเทศไทย) จำกัด ร่วมกับ บริษัท อาซากิ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด, บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน), บริษัท ช้อปปี้ (ประเทศไทย) จำกัด, บริษัท แอดวานซ์ ไวร์เลส เน็ทเวอร์ค จํากัด และ บริษัท ทอยโทเปีย จำกัด สานต่อความสำเร็จจากการจัดงานครั้งแรกที่ได้รับการตอบรับอย่างล้นหลามจากแฟนดิสนีย์และนักสะสมของเล่น สร้างสีสันให้ตลาดของสะสมและอาร์ตทอยที่ยังคงขยายตัวต่อเนื่อง

สำหรับปีนี้ งาน DISNEY TOY EXPO THAILAND 2025 มาพร้อมคอนเซปต์ “Discover the world of Disney” ชวนแฟน ๆ ก้าวเข้าสู่ดินแดนแห่งความสุขและความตื่นเต้น พร้อมสัมผัสสินค้าลิขสิทธิ์จากแบรนด์ระดับโลกมากมาย โดยมีเป้าหมายที่จะรวมหนึ่งในงานจัดแสดงอาร์ตทอยและของสะสมที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย มอบความสุขให้ทั้งผู้ร่วมงานชาวไทยและนักท่องเที่ยวจากต่างประเทศ

งานจัดขึ้นระหว่าง 4–7 กันยายน 2025 ที่เซ็นทรัลเวิลด์ ครอบคลุมพื้นที่ 3 ชั้น (กว่า 1,700 ตร.ม.) ปีนี้ขยายขนาดใหญ่มากขึ้น รวมกว่า 47 ร้านค้า 64 บูธ และสินค้าให้เลือกกว่า 2,000 รายการ พร้อมเปิดโอกาสให้ธุรกิจของเล่นและของสะสมทั้งไทยและต่างประเทศได้พบปะ เจรจาความร่วมมือ และขยายสู่ตลาดโลก

การจัดงานครั้งนี้สะท้อนถึงศักยภาพการเติบโตอย่างแข็งแกร่งของตลาดของเล่นและของสะสม โดยเฉพาะกระแสอาร์ตทอยที่มาแรงอย่างต่อเนื่อง ควบคู่ไปกับความต้องการสินค้าลิขสิทธิ์ที่ยังคงสูง ประเทศไทยถือเป็นตลาดสำคัญของดิสนีย์ ด้วยกลุ่มนักสะสมที่มีความหลากหลาย รสนิยมชัดเจน และกำลังซื้อที่มั่นคง ตัวละครดิสนีย์ที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานกว่าศตวรรษยังคงครองใจแฟน ๆ ไม่เสื่อมคลาย

ไฮไลท์งาน
ผู้ร่วมงานจะได้พบกับสินค้าเอ็กซ์คลูซีฟและสินค้าคอลเลคชั่นใหม่จากแบรนด์ชั้นนำระดับโลก อาทิ Beast Kingdom, Bestine, Blokees, Bushiroad, Casebang, Disney Lorcana Trading Card Game, Funko, Hot Toys , OH!SOME  และ SundayHome พร้อมเปิดตัวคอลเลกชันใหม่ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากคาแรกเตอร์ขวัญใจแฟน ๆ เปิดตัวครั้งแรกในประเทศไทย

อย่าพลาดโซนถ่ายรูปสุดคิวต์กับ Stitch ขนาด 1.8 เมตรในรูปแบบ Preserved Flower ที่มอบทั้งความสุข ความทรงจำ และเสน่ห์สดใสให้นักสะสมได้เก็บภาพ รวมถึงกิจกรรม Meet & Greet สุดพิเศษกับเพื่อนตัวละครจาก Lilo & Stitch

ภายในงานยังมีโปรโมชั่นพิเศษจากบูธต่าง ๆ ลดราคาสินค้าระหว่าง 10%–30% พร้อมลุ้นรางวัลสุดตื่นเต้นและดีลสุดเอ็กซ์คลูซีฟเฉพาะในงานนี้เท่านั้น

อย่าลืมจดวันไว้!
ร่วมฉลองความยิ่งใหญ่ไปกับสินค้าลิขสิทธิ์แท้จาก Disney, Pixar, Marvel และ Star Wars ในงาน DISNEY TOY EXPO THAILAND 2025 วันที่ 4–7 กันยายน 2568 ที่เซ็นทรัลเวิลด์ ชั้น 1–3 เข้าร่วมฟรีตลอดงาน

ติดตามความเคลื่อนไหวได้ที่ www.facebook.com/dtxthailand2025 
และ Instagram @dtxthailand2025