All posts by admin

บรรยากาศ Birthday Party เอิร์ธ สายสว่าง เหล่าไฮโซร่วมยินดี

เมื่อเร็วๆ นี้ คุณใหญ่ ปุญชรัศมิ์ แก้ววัฒนะบรวงศ์ เป็นเจ้าภาพจัดงานเลี้ยงฉลอง วันคล้ายวันเกิดแด่ เอิร์ธ สายสว่าง เจ้าแม่พีอาร์โรงแรมระดับตำนานณ ร้านอาหารอำแดงไต้ฝุ่น บายเดอะริเวอร์ริมแม่น้ำเจ้าพระยา ย่านพระราม 3 โดยมีเหล่าไฮโซแห่ร่วมงานสังสรรค์วันคล้ายวันเกิด อย่างคับคั้ง

งานนี้เรียกว่า เป็นอีกหนึ่งค่ำคืนที่เต็มไปด้วยรอยยิ้ม เสียงหัวเราะ และความทรงจำดีๆ ที่จะอยู่ในใจของทุกคนไปอีกนาน โดยมีให้การต้อนรับทั้งอาหารและเครื่องดื่มทั้งแขกวีไอพีและสื่อมวลชน “คุณใหญ่- ปุญชรัศมิ์ แก้ววัฒนะบรวงศ์” เจ้าของและ Chef Director ร้านอำแดงไต้ฝุ่น บายเดอะริเวอร์ (Am-Dang-Typhoon by The River ) และร้านอาหารริมน้ำอีก 6 แบรนด์ ซึ่งแต่ละแห่ง มีลูกค้าประจำและขาจรแวะเวียนเข้าไปชื่นชมรสชาติอย่างไม่ขาดสายย่างดีเยี่ยม

คุณใหญ่- ปุญชรัศมิ์ แก้ววัฒนะบรวงศ์” เจ้าของและ Chef Director ร้านอำแดงไต้ฝุ่น บายเดอะริเวอร์

อำแดงไต้ฝุ่น ร้านอาหารไทยริมแม่น้ำเจ้าพระยา ย่านพระราม 3 ดีกรีมิชลินไกด์ 2 ปีซ้อน เป็นอาหารไทยจีนโบราณและซีฟู้ด ร้านมีทั้งโซนด้านในติดแอร์ หรือนั่งด้านนอกในบรรยากาศริมน้ำ มองเห็นสะพานสวยๆ

อำแดงไต้ฝุ่น By the River
ให้บริการทุกวัน 11.00 – 22.00 น.
สำรองที่นั่ง โทร. 095 716 4712

Line: https://lin.ee/xM8cD3i1
Instagram: amdangtyphoon
เส้นทาง: https://shorturl.asia/jZXaC

Delivery
LineMan : https://lin.ee/5dHHBbW
GrabFood : https://bit.ly/3YEgJMI

#vespatravel #เมนูแนะนำ #อำแดงไต้ฝุ่น #อำแดงไต้ฝุ่นพระราม3 #ร้านอาหรริมน้ำ #ร้านอาหารไทย #ร้านมิชลิน #แม่น้ำเจ้าพระยา #พระราม3

“คิทโด้” วิตามินเม็ดเคี้ยว 2 สูตร 2 รสชาติสุดอร่อย!

“คิทโด้” วิตามินเม็ดเคี้ยว 2 สูตร 2 รสชาติสุดอร่อย! เป็นทางเลือกที่ดีของลูก และเป็นตัวช่วยที่ลงตัวของผู้ปกครองในการสร้างภูมิคุ้มกันและพัฒนาการทางสมองของเด็กๆ จัดโปรสุดคุ้ม 1 แถม 1 พิเศษ 49 บาท ที่เซเว่น อีเลฟเว่น

การดูแลสุขภาพของเด็กตั้งแต่ยังเล็กเป็นรากฐานสำคัญที่สุด เพราะยิ่งดูแลดีเท่าไหร่ เด็กก็จะมีภูมิคุ้มกันที่แข็งแรง ฉลาด และเติบโตอย่างมีพัฒนาการที่ดีสมวัย “คิทโด้” วิตามินชนิดเคี้ยว 2 สูตร 2 รสชาติ จึงถูกพัฒนาขึ้นเพื่อเป็นทางเลือกดี ๆ ของเด็ก ๆ และเป็นตัวช่วยที่ลงตัวของผู้ปกครองในการดูแลบุตรหลาน ให้ได้รับสารอาหารที่จำเป็นครบถ้วนในแต่ละวันอย่างง่ายดาย อร่อย และปลอดภัย

สูตรแรก “คิทโด้ ไอมู อะเซโรลา ซี พลัส มัลติวิตามิน” – รสส้ม: เกราะป้องกันโรค
เสริมสร้างเกราะป้องกันภัยร้ายรอบตัวด้วย “คิทโด้ ไอมู อะเซโรลา ซี พลัส มัลติวิตามิน” (รสส้ม) วิตามินเม็ดเคี้ยวที่เน้นการ เสริมระบบภูมิคุ้มกัน ด้วยพลังของวิตามินซีจากธรรมชาติจาก อะเซโรลา เชอรี่ สกัด นำเข้าจากสวิตเซอร์แลนด์ ซึ่งมีงานวิจัยรับรองว่าสามารถดูดซึมเข้าสู่ร่างกายได้เร็ว และคงอยู่ในร่างกายได้นานกว่าวิตามินซีสังเคราะห์ทั่วไป โดยไม่ระคายเคืองกระเพาะอาหารและไต ผสานกับ ซิตรัส ไบโอฟลาโวนอยด์, ซิงค์ และวิตามินรวม 13 ชนิด ที่ทำงานร่วมกันอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อ ป้องกันการติดเชื้อหวัด ลดโอกาสการติดเชื้อไวรัส แบคทีเรียหลายชนิด ลดอาการภูมิแพ้ และเพิ่มความแข็งแรงโดยเฉพาะในช่วงที่อากาศเปลี่ยนแปลงบ่อย

สูตรที่ 2 “คิทโด้ โปร ดีเอชเอ พลัส บิลเบอร์รี่” – รสมิกซ์เบอร์รี่: บำรุงสมองและสายตา เสริมสร้างพัฒนาการทางสมองและความสามารถในการเรียนรู้ด้วย “คิทโด้ โปร ดีเอชเอ พลัส บิลเบอร์รี่” (รสมิกซ์เบอร์รี่) อุดมไปด้วย DHA (โอเมก้า 3) จากน้ำมันปลาทูน่าบริสุทธิ์ นำเข้าจากออสเตรเลีย ที่ช่วยให้การเชื่อมต่อและสื่อสารระหว่างเซลล์สมองมีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้น ส่งผลให้การเรียนรู้เร็วขึ้นและความจำดีขึ้น เสริมด้วย โคลีน, แอล-ไลซีน และวิตามินบีรวม 7 ชนิด พร้อมด้วย สารสกัดจากบิลเบอร์รี่ และเบอร์รี่รวม 6 ชนิด เพื่อ ดูแลสมองและสายตา โดยเฉพาะ ลดอาการตาแห้งและความอ่อนล้าจากการใช้สายตาจ้องอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์เป็นเวลานาน เหมาะสำหรับน้อง ๆ และทุกคนที่ใช้สายตาหนัก

“คิทโด้” ผลิตจากโรงงานที่ได้มาตรฐาน มีการรับรองจาก อย. มั่นใจในคุณภาพและความปลอดภัย วิตามินสูตรนี้เน้นสารอาหารสำคัญ ทานง่าย หอมกลิ่นผลไม้ ไม่เติมน้ำตาล ซึ่งเป็นสาเหตุของฟันผุ และไม่ใส่สารกันเสีย แนะนำให้รับประทานเคี้ยวสูตรละ 1-3 เม็ดต่อวัน เพื่อให้ร่างกายได้รับปริมาณสารอาหารและวิตามินครบถ้วน

พิเศษสุด! “คิทโด้” 1 ซอง บรรจุ 12 เม็ด แถมฟรีอีก 3 เม็ด (แถมในซอง) รวมเป็น 15 เม็ด/ซอง จัดโปรโมชั่นสุดคุ้ม “ซื้อ 1 แถม 1” สามารถคละรสชาติได้ เพียง 49 บาท (จากปกติ 98 บาท) สมาชิก All Member ลดเพิ่มอีก 1 บาท เหลือเพียง 38 บาท ซื้อได้ตั้งแต่วันนี้ – 23 พฤศจิกายน 2568 ที่ ร้านเซเว่น อีเลฟเว่น ทุกสาขาทั่วประเทศ

สามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมของ “คิทโด้” ทั้ง 2 สูตร 2 รสชาติ ได้ที่เว็บไซต์ www.bshine.www.bshine.co.th/kitdo/co.th/kitdo/,
FB : kitdoclub และ Line : @Kitdo

Varana Hotel Krabi

‘วารานา’ มีที่มาของความหมาย VANA = ป่า NAVA =น น้ำ VARA = คน เป็นโรงแรมที่ผสมผสานความหรูหรา ความสะดวกสบาย และการออกแบบที่ทันสมัยที่มีสิ่งอำนวยความสะดวกด้านกีฬาไว้มากมาย ซึ่งมีการใช้ทรัพยากรและพลังงานอย่างคุ้มค่าและมีประสิทธิภาพ มีการจัดการมลพิษและสิ่งแวดล้อมที่ดี มีส่วนร่วมในการสืบสานศิลปวัฒนธรรม ภูมิปัญญาท้องถิ่น ที่เน้นความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อมไปพร้อมกับส่งเสริมการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน

เพราะการออกแบบของทุกพื้นที่ในนี้ก็มีความหมายและได้ประโยชน์สูงสุด เปิดประสบการณ์ใหม่ของการพักผ่อน กับโรงแรม ที่ออกแบบทุกองค์ประกอบด้วยหัวใจแห่งความยั่งยืน จากแนวคิด “การใช้ชีวิตอย่างสมดุล” สู่ดีไซน์ร่วมสมัยที่กลมกลืนกับธรรมชาติ

เริ่มต้นการเข้าพักด้วยการ Check-in เลือก Welcome Drink จากตู้เย็นเป็นน้ำสมุนไพรท้องถิ่น ก่อนจะพาเรานั่งรถตุ๊กๆไฟฟ้า EV ให้คำแนะนำสถานที่โดยรอบของโรงแรม และส่งยังห้องพัก แนะนำข้อมูลต่างๆ ขอโรงแรมโดยละเอียด โรงแรมนี้เปิดใหม่ได้ไม่นานมีพื้นที่ขนาดใหญ่มากๆ

Varana Hotel Krabi
‘วารานา’ มีที่มาของความหมาย VANA = ป่า NAVA =น น้ำ VARA = คน
𝐉𝐀𝐈
ภายในโรงแรมมีร้านของฝากและงานแฮนด์คราฟต์ที่เป็นฝีมือจากท้องถิ่นมาจัดแสดงให้เราได้เลือกชมเลือกช้อปกันด้วย นอกจากจะได้ของดีและมีคุณภาพแล้ว ยังได้สนับสนุนฝีมือของศิลปินท้องถิ่น
OLYMPIC POOL ขนาดสระ 7 x 50 ม. สำหรับว่ายน้ำแบบแข่งขันว่ายน้ำ

จากห้องพักมองเห็นสระว่ายน้ำ OLYMPIC POOL ขนาดสระ 7 x 50 ม. สำหรับว่ายน้ำแบบแข่งขันว่ายน้ำ และความลึกสูงสุดที่ 3 ม. สามารถดำน้ำฝึกสกิล Freediving มีฟินให้ใช้ Paddle board ให้พาย และมี Sea Scooter ให้เล่นไม่ต้องกังวลเพราะมีไลฟ์การ์ดสแตนบายในช่วงเวลาที่เปิดให้บริการ กิจกรรมที่เปิดให้ทุกคนเข้าร่วมคลาสไม่เหมือนกัน สามารถดูได้จากบอร์ดกิจกรรมและโปรแกรมตอนเช็คอิน

โรงแรมนี้มีเรื่องความยั่งยืน Wellness Hotel และความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม ทุกท่านที่มาพักจะได้สัมผัสกับประสบการณ์พักผ่อนแบบ ‘เวลเคชัน’ ท่ามกลางวิวอันงดงามของภูเขาและทะเลอันดามัน ทั้งยังเปิดรับแนวคิดการเป็นที่พักที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และที่นี่มีการจัดการอย่างยั่งยืนอย่างแท้จริง
โรงแรมสไตล์ Minimalist Luxury เอาใจสายรักตัวเองและรักโลกและสังเกตได้จากทุกอย่างภายในโรงแรม เน้นการพักผ่อน อากาศดี มีกิจกรรม ออกกำลังกาย และดูแลสุขภาพตนเองอย่างยั่งยืนด้วยวิถีธรรมชาติบาบัด
เรื่องอาหาร ‘วารานา’ ใช้วัตถุดิบจากสวนปลูกเอง และยังสนับสนุนสินค้าจากคนท้องถิ่น คัดมาแล้วว่าปลอดสารพิษ สดใหม่ ไม่ว่าจะเป็นซีฟู๊ดจากเรือประมง เนื้อสัตว์จากฟาร์มออแกนิก นำมาใช้ในส่วน ห้องอาหาร

VANA = ป่า NAVA = น้ำ VARA = คน
เพราะธรรมชาติที่ดีคือความสมดุลระหว่าง 3 สิ่ง
รูปทรงสามเหลี่ยมแห่งความสัมพันธ์ที่อยู่ร่วมกันอย่างสมดุลและมั่นคง

รายละเอียดเพิ่มเติม จองโดยตรงที่
FB : Varana Hotel Krabi
Tel : 075-656989
Reservation: 065-928-6852, rsvn@varanahotel.com
Website: varanahotel.com/kkt
Map : maps.app.goo.gl/e3oNeVJ8d9XY5uQb8

“อาร์ต – วศิน วรรณพฤกษ์” ศิลปินหน้าใหม่ค่าย “Alley1 Records ”

จากผู้บริหารสู่ศิลปิน “อาร์ต – วศิน วรรณพฤกษ์” ศิลปินหน้าใหม่ค่าย “Alley1 Records ” เปิดตัวเพลงซิงเกิลแรก “Thank You” 10 วัน 100,000 วิว

อีกหนึ่งก้าวสำคัญของ “อาร์ต – วศิน วรรณพฤกษ์” ผู้บริหารมากความสามารถและนักการตลาดรุ่นใหม่ที่มากด้วยประสบการณ์ด้านการสร้างแบรนด์สินค้า และการสื่อสารการตลาดมามากกว่า 30 ปี ที่หลายคนคุ้นหน้าในตำแหน่งผู้อำนวยการฝ่ายธุรกิจองค์กร บริษัท รถไฟฟ้า ร.ฟ.ท. จำกัด(รฟฟท.) มีรางวัลการันตีในฐานะนักการตลาดยอดเยี่ยมมากมายจากหลายเวที เช่น รางวัลจากเวที Asia Top Awards 3 ปี ซ้อน ล่าสุดผันตัวสู่อีกหนึ่งบทบาทใหม่ในฐานะ ศิลปินคนล่าสุดของค่ายเพลง Alley1 Records ค่ายเพลงคุณภาพ พร้อมเปิดตัวเพลง “Thank You” ซิงเกิลแรกแนว pop soul ที่ได้Streamingพร้อมกันทั่วประเทศเมื่อวันที่ 19 กันยายน 2568 ที่ผ่านมา และมิวสิกวิดีโอทาง YouTube: Alley1 Record MUSIC OFFICIAL ยอดวิวทะลุ 100,000 วิวเป็นที่เรียบร้อย
คุณอาร์ตได้เล่าถึงเส้นทางสายดนตรีว่า “จริงๆ เมื่อ 30 ปี ที่แล้วต้องทำเพลงออกอัลบัม แต่มีเหตุให้ต้องหยุดชะงักเนื่องจากต้องไปศึกษาต่อปริญญาโทที่ประเทศสหรัฐอเมริกา หลังจากกลับมาก็ทำงานในฐานะนักสื่อสารการตลาดและวางกลยุทธ์ สร้างแบรนด์สินค้า การตลาดและโฆษณา จนมาถึงระบบขนส่งทางรางในฐานะพนักงานรัฐวิสาหกิจตลอด 30 ปีเต็ม ตลอดชีวิตการทำงาน ผมรู้สึกว่าอยากเติมเต็มช่วงชีวิตที่หายไป จนกระทั่งมาปีนี้ ได้ค่ายเพลง Alley1 Record โดยมีหัวเรือใหญ่ พี่ต๋อง อภิชา สุขแสงเพ็ชร หรือ ต๋อง The Begins Music Director ของ The Voice Thailand ได้ชักชวนให้มาออกซิงเกิล ครั้งแรกที่ได้อ่านเนื้อเพลงแล้วรู้สึกว่าตรงกับตัวเรามาก พอได้ฟังทำนองด้วยแล้ว คือใช่เลย ทุกอย่างลงตัวมาก ความพิเศษของเพลงนี้คือมีเครื่องดนตรีประเภทเครื่องเป่าแสนคลาสสิค อย่าง Trombone เข้ามาบรรเลงในช่วงโซโล ทำให้เพลงนี้มีความไพเราะมาก


ด้านคุณต๋อง อภิชา เล่าให้ฟังว่า ได้แต่งเพลง Thank You โดยบอกเล่าชีวิตจริงของผู้ร้อง ซึ่งก็คือคุณอาร์ต วศิน เนื้อหาเพลงได้บอกเล่าเรื่องราวของความรักในอดีตที่แสนเจ็บปวดและการเติบโต แต่เราสามารถผ่านพ้นความรู้สึกเจ็บปวดนั้นได้โดยใช้เวลาเป็นตัวรักษาและเยียวยาความเจ็บปวดนั้น ซึ่งความพิเศษของเพลง Thank You นั้น มี Trombone มาประสานในช่วง Solo ทำให้เพลงมีความพิเศษเพิ่มขึ้น ดนตรีมันมีความพิเศษตรงที่มันเข้าถึงใจผู้คนได้อย่างรวดเร็ว เพลงเพียงไม่กี่นาทีสามารถทำให้คนยิ้ม หัวเราะ หรือร้องไห้ไปพร้อมกันได้ ผมจึงอยากสร้างเพลงที่เปิดโอกาสให้ศิลปินรุ่นใหม่ได้แสดงตัวตนอย่างเต็มที่ โดยไม่ถูกจำกัดด้วยกรอบของสไตล์หรือวัย ทุกเพลงของเราต้องเป็นเพลงที่ทำให้ผู้ฟังรู้สึกว่า ‘นี่คือเพลงของคุณ’ จริง ๆ

“Thank You” – ซิงเกิลแรกของศิลปินรุ่นใหญ่วัยเก๋า อาร์ต วศิน วรรณพฤกษ์ ถ่ายทอดพลังเสียงจากหัวใจ โดยได้นักแสดงที่คับคั่งด้วยความสามารถและมีผลงานมากมาย อย่าง น้ำฝน กุลณัฐ มาถ่ายทอดเรื่องราวของบทเพลง Thank You ส่งผ่านกำลังใจให้ทุกคนที่ล้มได้ลุกขึ้นยืนได้อย่างเข็มแข็ง กำกับ Music Video โดย คุณเอก หิรัญ สุวรรณเทศ จาก I Snap U Studio ซึ่งคุณเอกได้เล่าว่า อยากให้ Music Video มีความเป็น Life Dramatic หลังจากประชุมกับทีมงานแล้ว คนที่จะเหมาะที่จะมารับบทนางเอก Music Video นี้จะเป็นใครไปไม่ได้เลยนอกจาก คุณน้ำฝน กุลณัฐ ต้องขอขอบคุณ น้ำฝน กุลณัฐ ที่บินมาจากอเมริกาเพื่อถ่ายทำ Music Video นี้

“Thank You” เพลงซิงเกิลแรกของอาร์ต วศิน มีกระแสการตอบรับดีมาก โดยมียอดวิวใน You Tube ถึง 1 แสนวิวหลังจากปล่อยออกมาได้เพียงแค่ 10 วัน นับเป็นปรากฏการณ์ที่ทำเอานักร้องหน้าใหม่รุ่นใหญ่วัยเก๋า ถึงกับกลั้นน้ำตาแห่งความปลื้มปิติเอาไว้ไม่อยู่เลยทีเดียว.

รฟฟท.รับรางวัลองค์กรต้นแบบด้านสิทธิมนุษยชนประเภทรัฐวิสาหกิจ ระดับ “ดีเด่น” ประจําปี 2568

บริษัท รถไฟฟ้า ร.ฟ.ท. จำกัด (รฟฟท.) รับรางวัลองค์กรต้นแบบด้านสิทธิมนุษยชน ประจำปี 2568 (Human Rights Awards 2025) ประเภทองค์กรรัฐวิสาหกิจ ระดับ ”ดีเด่น” จากกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ กระทรวงยุติธรรม 

นายสุเทพ พันธุ์เพ็ง กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท รถไฟฟ้า ร.ฟ.ท. จำกัด หรือผู้ให้บริการรถไฟฟ้าชานเมืองสายสีแดง เปิดเผยว่า บริษัทฯ ได้เข้ารับมอบรางวัลองค์กรต้นแบบด้านสิทธิมนุษยชน “ระดับดีเด่น” ประจำปี 2568 (Human Rights Awards 2025) จากกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ กระทรวงยุติธรรม เมื่อวันจันทร์ที่ 22 กันยายน 2568 โดยมี พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เป็นประธานในพิธีมอบรางวัลฯ ณ โรงแรมอัศวิน แกรนด์ คอนเวนชั่น กรุงเทพมหานคร

ทั้งนี้ บริษัท รถไฟฟ้า ร.ฟ.ท. จำกัด ได้รับคัดเลือกให้เป็น 1 ใน 10 ประเภทองค์กรรัฐวิสาหกิจที่ดำเนินงานตามหลักสิทธิมนุษยชนในระดับดีเด่น ตอกย้ำความเป็นองค์กรที่ให้ความสำคัญในการดำเนินงานด้านสิทธิมนุษยชนอย่างเท่าเทียมควบคู่กับการให้บริการเดินรถไฟฟ้าที่มีมาตรฐานในระดับสากล โดยยึดมั่นในการนำหลักการเคารพสิทธิมนุษยชนมากำหนดเป็นกลยุทธ์และแนวทางในการดำเนินงาน โดยเฉพาะการขับเคลื่อนแผนปฏิบัติการระดับชาติว่าด้วยธุรกิจกับสิทธิมนุษยชน ให้เป็นส่วนหนึ่งในการบริหารจัดการ เพื่อผลักดันและขับเคลื่อนให้องค์กรเติบโตและก้าวหน้าอย่างต่อเนื่อง โดยการนำหลักสิทธิมนุษยชนมาประยุกต์ใช้และสร้างให้เป็นส่วนหนึ่งของวัฒนธรรมองค์กร ส่งเสริมบุคลากรทุกคนให้มีความตระหนัก  ยึดมั่นการสร้างความยุติธรรมและความเท่าเทียม เคารพในศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ ควบคู่กับการสร้างความน่าเชื่อถือและความโปร่งใสตามหลักธรรมาภิบาล รวมทั้งยังสร้างการมีส่วนร่วมและรักษาความสัมพันธ์อันดีกับผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย ได้แก่ ผู้ใช้บริการ ชุมชนตามแนวเส้นทางรถไฟฟ้า คู่ค้า และกลุ่มเปราะบาง อันจะส่งผลให้ประชาชนทุกกลุ่มสามารถเข้าถึงการให้บริการขององค์กรได้อย่างสะดวก รวดเร็ว ปลอดภัย และมีความเสมอภาค และบริษัทฯจะมุ่งมั่นพัฒนาเพื่อยกระดับมาตรฐานการให้บริการสู่เป้าหมายแห่งความสำเร็จอย่างยั่งยืน

โดยท่านสามารถติดตามรายละเอียดได้ทาง โซเชียลมิเดียทุกแพลตฟอร์ม Facebook Fan Page, Twitter , Instagram, Youtube, Tiktok พิมพ์ชื่อ
“RED Line SRTET” หรือส่วนบริการลูกค้า 1690 ตลอด 24 ชั่วโมง และ www.srtet.co.th

“มากกว่าการเดินทางคือ …ความพิเศษ”
รถไฟฟ้าสายสีแดง ยกระดับคุณภาพชีวิตชานเมือง

วศิน วรรณพฤกษ์ รับรางวัล ผู้ส่งเสริมและสนับสนุน ทำคุณประโยชน์ต่อประเทศชาติ

เมื่อวันที่ 13 กันยายน 2568 ที่ผ่านมา นายวศิน วรรณพฤกษ์ ผู้อำนวยการฝ่ายธุรกิจองค์กร บริษัท รถไฟฟ้า ร.ฟ.ท. จำกัด ผู้ให้บริการรถไฟฟ้าชานเมืองสายสีแดง ได้รับคัดเลือกให้เป็นหนึ่งในบุคคลดีเด่นที่ได้รับรางวัล “คุ้มเกล้าเยาวชนคนสร้างชาติ” ประจำปี 2568 ในสาขา “ผู้ส่งเสริมและสนับสนุน ทำคุณประโยชน์ต่อประเทศชาติ” สาขาหนึ่งของรางวัล “ซึ่งมอบให้กับบุคคลหรือองค์กรที่สร้างคุณประโยชน์และทำความดีต่อสังคมไทยอย่างโดดเด่น เพื่อส่งเสริมค่านิยมที่ดีงาม เช่น การพัฒนาสังคม การอนุรักษ์วัฒนธรรม และการทำจิตอาสา

โดยจัดขึ้นเป็นครั้งที่ 7 สำหรับปีนี้ รางวัลดังกล่าวเป็นรางวัลที่มอบให้แก่ผู้ทำความดีและสร้างคุณประโยชน์ต่อสังคมอย่างโดดเด่น จัดขึ้นโดยมูลนิธิคุ้มเกล้าเยาวชนคนสร้างชาติ เพื่อส่งเสริมให้คนไทยมีค่านิยมที่ดีงามตามหลักปรัชญา ส่งเสริมให้เยาวชนไทยได้ศึกษา คิดค้นสิ่งประดิษฐ์ พัฒนาสังคม อนุรักษ์วัฒนธรรม สืบสานศาสนา ส่งเสริมกีฬา และมุ่งมั่นจิตอาสาแบบบูรณาการ โดยมีผู้แทนจากหน่วยงานราชการ หน่วยงานรัฐวิสาหกิจ หน่วยงานเอกชน นักเรียนและนักศึกษาทั่วประเทศ ร่วมรับรางวัล โดยได้รับเกียรติจาก ดร.สุเทพ แก่งสันเทียะ ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ เป็นประธานในงาน และนายสมใจ วิเศษทักษิณ ผู้ตรวจราชการกระทรวงศึกษาธิการเป็นผู้มอบรางวัล ซึ่งจัดขึ้น ณ หอประชุมคุรุสภา กระทรวงศึกษาธิการ

จุดชมวิวผาย้อนตะวัน – เกษตรเชิงธรรมชาติ

มาเที่ยวสระบุรี หาลานกางเต็นท์ใกล้กรุงเทพฯ หามุมธรรมชาติที่ไม่เหมือนใคร แนะนำให้แวะลานกางเต็นท์ ผาย้อนตะวัน ดินแดนแห่งหุบเขาที่ครอบคลุมพื้นที่สระบุรี เป็นอีกหนึ่งจุดเช็คอินธรรมชาติที่ไม่ควรพลาด ด้วยความอุดมสมบูรณ์ของธรรมชาติทำให้ที่นี่เป็นที่อยู่อาศัยของสัตว์และนานาพันธุ์ งดงามต่อใจ ใครที่ได้มาสัมผัสบรรยากาศของ วิวผาย้อนตะวัน

เมื่อไหร่ที่เราเงียบธรรมชาติจะส่งเสียงดัง ที่นี่มาเที่ยวได้ตลอดทั้งปี แต่ความสวยจะต่างกันตามฤดูกาล มาที่นี่รับรองได้ชมวิวหลักล้านของขุนเขา ทะเลหมอก ที่ลานกางเต็นท์ไม่ว่าจะมากับแก๊งส์ หรือ ยกครอบครัว หรือมากับคนรู้ใจ ดีงาม เหมาะแก่การมาเติมพลังใจ ละทิ้งความเหนื่อยจากการทำงาน วิวสวย โรแมนติก ชมแสงแรกของวัน ที่สาดส่องลงบนทะเลหมอก ตกเย็นชมอาทิตย์ตกดินไปพร้อมกับแสงของท้องฟ้าที่ไล่เป็นเฉดสีต่างๆ ก่อนจะชมแสงดาวนับล้านที่ส่องประกายในยามค่ำคืน ใครมีโอกาสได้มากางเต็นท์นอนท่ามกลางธรรมชาติที่นี่ รับรองฟินสุดๆ เป็นลานกางเต็นท์ใกล้กรุงเทพฯ อีกแห่งที่หลายคนบอกว่า มาเยือนแค่ครั้งเดียว ทำให้ตกหลุมรัก สำหรับนักท่องเที่ยวที่ตั้งใจมาค้างคืน บนผาย้อนตะวัน มีบริการบ้านพักและลานกางสำหรับนักท่องเที่ยว ทีทุกคนไม่ต้องเตรียมเต็นท์ไปเอง ที่นี่มีบริการที่หลากหลายตามความต้องการของท่าน

ลานวิวสวยริมผา สระบุรี และจุดชมพระอาทิตย์ลับขอบฟ้าที่สวยที่สุดแห่งหนึ่งของไทย ที่ผาย้อนตะวัน ลานกางเต็นท์ มวกเหล็ก จ.สระบุรี ลานสวยบรรยากาศดี ชมพระอาทิตย์ตกงามๆ จองล็อคได้ด้วย มีโซนแคมป์คาร์ บ้านพัก คาเฟ่เครื่องดื่ม มีน้องๆสัตว์ทั้งหลาย แกะ ไก่ นก กระต่ายให้ชม ห้องน้ำดีมีน้ำอุ่น กับลานครบครันสะดวกสบาย การเข้าพักต้องจองล่วงหน้าเท่านั้นนะคะ

ที่ผาย้อนตะวัน มีฝูงแกะน่ารักให้เด็ก ๆ ได้เพลิดเพลินลานกางเต็นท์กว้างขวาง วิวสวยรอบทิศอากาศสดชื่น เติมพลังใจได้เต็มที่

ผาย้อนตะวัน – เกษตรเชิงธรรมชาติ
298 ตำบล หนองย่างเสือ อำเภอมวกเหล็ก สระบุรี 18180
ติดต่อกางเต็นท์ที่เพจ : ผาย้อนตะวัน
โทร. 081 295 1999

#ผาย้อนตะวัน #ลานกางเต็นท์สระบุรี
#กางเต็นท์วิวภูเขา#ทริปครอบครัว #ทริปคู่รัก #หมอกยามเช้า #ชมพระอาทิตย์ตกดิน #เที่ยวเชิงธรรมชาติ #พักผ่อนท่ามกลางธรรมชาติ #campinglife #naturelover

DISNEY TOY EXPO THAILAND 2025

จัดยิ่งใหญ่ แฟนคลับดิสนีย์แห่ร่วมงาน สวรรค์ของนักสะสม แบรนด์ของเล่นระดับโลกร่วมสร้างสีสันเต็มพื้นที่

ก้าวเข้าสู่โลกของ Disney, Pixar, Marvel และ Star Wars – DISNEY TOY EXPO THAILAND 2025 เปิดฉากอย่างเป็นทางการแล้ว พร้อมตอกย้ำความยิ่งใหญ่ในฐานะหนึ่งในงานของเล่นของสะสมธีมดิสนีย์ที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ตลอด 4 วันเต็ม งานได้รวบรวมทัพของเล่น ของสะสม และสินค้าลิขสิทธิ์จากแบรนด์ระดับโลก ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากเรื่องราวสุดรักของ Disney, Pixar, Marvel และ Star Wars

วันเปิดงานเต็มไปด้วยแฟนดิสนีย์ นักสะสม และผู้เข้าชมทุกวัย ที่มาร่วมช้อปคอลเล็กชันใหม่ล่าสุดและสินค้าลิมิเต็ดที่ห้ามพลาด ธีมของปีนี้คือ “Discover the world of Disney” ที่ออกแบบมาเพื่อสร้างความประทับใจให้กับแฟน ๆ โดยมีไฮไลต์คือจุดถ่ายรูปสุดน่ารัก “Stitch Preserved Flower” ขนาดสูง 1.8 เมตร และกิจกรรม Meet & Greet กับเพื่อนคนพิเศษจากเรื่อง Lilo & Stitch ตอกย้ำประเทศไทยในฐานะจุดหมายปลายทางที่แฟนดิสนีย์ทั่วโลกต้องมาเยือน

งานนี้จัดโดย The Walt Disney (Thailand) Company Limited ร่วมกับ Asaki International Co., Ltd., Central Pattana Public Company Limited, Shopee (Thailand) Co., Ltd., Advanced Wireless Network Co., Ltd. และ Toytopia Co., Ltd. ซึ่งในปีนี้เป็นครั้งที่ 2 ต่อเนื่องจากความสำเร็จในปีที่ผ่านมา ตอกย้ำความนิยมในหมู่แฟนดิสนีย์และนักสะสม พร้อมทั้งช่วยขับเคลื่อนตลาดของสะสมและ art toy ในไทยให้คึกคักยิ่งขึ้น

Alex Baillie รองประธานและผู้จัดการทั่วไป Disney Consumer Products, South Asia Pacific กล่าวว่า “ความนิยมในของสะสมเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะ art toy ที่กลายเป็นสิ่งที่ผู้คนรักและผูกพัน และเป็นสิ่งที่เชื่อมระหว่างแฟนๆกับเรื่องราวที่พวกเขาชื่นชอบ งาน Disney Toy Expo Thailand เป็นเวทีที่ยอดเยี่ยมในการแสดงให้เห็นว่า แบรนด์ต่าง ๆ ได้ตีความคาแรคเตอร์เหล่านี้ใหม่อย่างไร และทำให้สินค้าเข้าถึงทุกเจนเนอเรชันในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ได้

DISNEY TOY EXPO THAILAND 2025 จัดขึ้นระหว่างวันที่ 4–7 กันยายน 2025 ณ เซ็นทรัลเวิลด์ ครอบคลุมพื้นที่กว่า 1,700 ตร.ม. บน 3 ชั้นงาน มาพร้อมของเล่น ของสะสม ฟิกเกอร์ แกดเจ็ต อุปกรณ์เสริม ของตกแต่งบ้าน เครื่องนอน ไปจนถึงการคอลแลบสินค้าลิมิเต็ดอิดิชัน โดยรวบรวมแบรนด์ลิขสิทธิ์จากผู้จัดแสดง

สินค้าร่วม 40 ร้านค้า มากกว่า 50 บูธ และสินค้ากว่า 2,000 รายการให้มาเลือกชมและเลือกซื้อ กันในที่เดียวภายในงานจะมีสินค้าลิขสิทธิ์ที่ได้แรงบันดาลใจมาจาก Disney, Pixar, Marvel และ Star Wars ที่มาพร้อมการจัดแสดงที่น่าประทับใจจากผู้นำอุตสาหกรรมในระดับโลก

ผู้แสดงสินค้าระดับโลกที่เข้าร่วมได้แก่
• อุปกรณ์มือถือ: Casebang (จีน)
• ของแต่งบ้าน: SundayHome (เวียดนาม), Bestine (จีน)
• ของขวัญและไลฟ์สไตล์: OH!SOME (สิงคโปร์)
• การ์ดสะสม: Bushiroad (ญี่ปุ่น), Disney Lorcana Trading Card Game (สิงคโปร์)
• ฟิกเกอร์สะสม: Hot Toys (ฮ่องกง), Blokees (จีน), Beast Kingdom (ไต้หวัน), Funko (สหรัฐฯ)
นอกจากนี้ยังมีแบรนด์ไทยที่มาในงานนี้ด้วยเช่น
• AppleSheep (แกดเจ็ตและอุปกรณ์มือถือ)
• Asaki (อิเล็กทรอนิกส์)
• SB Furniture (เฟอร์นิเจอร์และของใช้ในบ้าน)
• Taketoys (ตุ๊กตา Plush)

สินค้าเปิดตัวพิเศษ คอลเลคชั่นใหม่ Star Wars จาก Blokees , Aliens และ Lotso จาก BBToys ,แอคเซสซอรี Toy Story จาก Casebang และ Mickey Mouse จาก AppleSheep

โดยโปรโมชั่นพิเศษในงาน ส่วนลด 10%–30% โปรโมชั่น “ซื้อ 2 แถม 1” ซื้อครบ 1,000 บาท รับบัตรกำนัลมูลค่า 100 บาท เรียกได้ว่าเป็นงานใหญ่ที่จัดต่อเนื่อง และได้รับความสนใจจากแฟนคลับเข้าร่วมร่วมอย่างเนืองแน่น DISNEY TOY EXPO THAILAND 2025 จัดยิ่งใหญ่และจัดเต็มเพื่อแฟนคลับดิสนีย์จริงๆ

GIT สร้างปรากฏการณ์ 2 เวทีระดับโลก ดันไทยสู่ศูนย์กลางอัญมณีและเครื่องประดับสากล

สถาบันวิจัยและพัฒนาอัญมณีและเครื่องประดับแห่งชาติ (องค์การมหาชน) หรือ GIT ประกาศความสำเร็จ 2 เวทีการประกวดระดับโลก ตอกย้ำศักยภาพไทยสู่ศูนย์กลางอัญมณีและเครื่องประดับโลกประจำปี 2025 อย่างยิ่งใหญ่ การประกวดออกแบบเครื่องประดับโลก ครั้งที่ 19 (The 19th GIT’s World Jewelry Design Awards 2025) และ การประกวดพลอยเจียระไนโลก (GIT’s World Challenge Gems Faceting Master 2025) การจัดงานทั้งสองไม่เพียงแต่เป็นการแข่งขันเพื่อชิงรางวัลอันทรงเกียรติ แต่ยังเป็นการยกระดับมาตรฐานอุตสาหกรรมอัญมณีและเครื่องประดับของไทยให้ก้าวสู่ระดับโลกอย่างสง่างาม พร้อมทั้งสร้างภาพลักษณ์ประเทศไทยในฐานะศูนย์กลางอัญมณีและเครื่องประดับของโลก โดยมีนายฉันทวิชญ์ ตัณฑสิทธิ์ รมช.พาณิชย์ เป็นประธานในพิธีมอบรางวัล นางนันทวัน ศกุณตนาค ประธานคณะกรรมการสถาบันวิจัยและพัฒนาอัญมณีและเครื่องประดับแห่งชาติ กล่าวรายงานการจัดงาน ณ ลาน Living Hall ชั้น 3 ศูนย์การค้าสยามพารากอน 

นายฉันทวิชญ์ ตัณฑสิทธิ์ รมช.พาณิชย์ กล่าวว่า อุตสาหกรรมอัญมณีและเครื่องประดับไทย ถือเป็นหนึ่งในอุตสาหกรรมที่มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อระบบเศรษฐกิจของประเทศ ทั้งด้านการสร้างงาน การค้า และการลงทุน โดยมีมูลค่าการส่งออกรวมปีละกว่า 5 แสนล้านบาท ซึ่งล้วนมาจากภูมิปัญญาของช่างไทยที่สั่งสมกันมาทั้งความคิดสร้างสรรค์ในการออกแบบและความประณีตวิจิตรในการสร้างสรรค์ชิ้นงานจนเป็นที่ยอมรับในระดับโลก

GIT เป็นหน่วยงานในกำกับของกระทรวงพาณิชย์ ซึ่งที่ผ่านมาได้ส่งเสริมการสร้างนักออกแบบเครื่องประดับรุ่นใหม่ให้เป็นที่รู้จักในระดับสากล ผ่านการประกวดออกแบบเครื่องประดับระดับโลก ปีนี้จัดขึ้นต่อเนื่องเป็นครั้งที่ 19 ได้รับความสนใจอย่างล้นหลามจากนักออกแบบทั่วโลกส่งผลงานเข้าร่วมประกวดและได้ส่งเสริมศักยภาพและทักษะการเจียระไนพลอยของช่างไทย ผ่านการประกวดพลอยเจียระไนระดับโลก 

ซึ่งปีนี้มีพลอยเจียระไนทั้งพลอยเนื้อแข็งและพลอยทั่วไป โดยการจัดประกวดดังกล่าว ถือเป็นการแสดงศักยภาพและสร้างภาพลักษณ์ประเทศไทยในฐานะ “ศูนย์กลางการค้าอัญมณีและเครื่องประดับโลก” และเป็นการช่วยยกระดับมาตรฐานอุตสาหกรรมอัญมณีและเครื่องประดับของไทยสู่ระดับสากล”

นายสุเมธ ประสงค์พงษ์ชัย ผู้อำนวยการ สถาบันวิจัยและพัฒนาอัญมณีและเครื่องประดับแห่งชาติ กล่าวว่า จุดประสงค์หลักของการจัดโครงการคือการเปิดให้นักออกแบบรุ่นใหม่ได้แสดงความคิดสร้างสรรค์ ผลงานการออกแบบไม่เพียงสร้างรายได้และความแตกต่างทางการแข่งขัน แต่ยังเป็นการเสริมสร้าง “Soft Power” ที่ช่วยเผยแพร่เอกลักษณ์ของแต่ละประเทศออกมาผ่านเครื่องประดับ ในขณะเดียวกันยังเป็นสนามแห่งการเรียนรู้ การแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ และการต่อยอดสู่นวัตกรรมใหม่ ๆ ทั้งสองโครงการนี้ไม่เพียงแต่เป็นเวทีการแข่งขัน แต่คือเวทีแห่งการสร้างสรรค์และการเชื่อมโยง ที่จะผลักดันศักยภาพของไทยให้ก้าวไกลในตลาดโลก

GIT’s World Jewelry Design Awards ในปีนี้ได้รับความสนใจอย่างล้นหลามจากนักออกแบบทั่วโลก โดยมีผลงานส่งเข้าร่วมมากถึง 899 ผลงาน จาก 37 ประเทศ แบ่งเป็นผลงานจากต่างประเทศ 475 ผลงาน และจากประเทศไทย 424 ผลงาน นับเป็นสถิติที่สะท้อนถึงการเติบโตอย่างต่อเนื่องของการประกวดในระดับนานาชาติ ผู้ชนะจะได้รับรางวัลมูลค่ารวมกว่า 7,000 เหรียญสหรัฐ (กว่า 230,000 บาท) พร้อม โล่พระราชทานสมเด็จพระเจ้าน้องนางเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี ซึ่งนับเป็นเกียรติสูงสุดในสายอาชีพ

นายสุเมธ กล่าวต่อว่า “ในอีกด้านหนึ่ง การประกวด GIT’s World Challenge Gems Faceting Master 2025 ได้รับผลงานรวม 55 เม็ด แบ่งเป็นพลอยเนื้อแข็ง 18 เม็ด และพลอยทั่วไป 37 เม็ด แต่ละผลงานสะท้อนให้เห็นถึงทักษะ ความวิริยะ และความประณีตที่ทัดเทียมมาตรฐานสากล โดยเวทีนี้ยังเป็นโอกาสในการแลกเปลี่ยนประสบการณ์และองค์ความรู้ระหว่างช่างฝีมือไทยกับช่างจากต่างประเทศ อันจะนำไปสู่การพัฒนาเทคนิคและยกระดับคุณภาพอุตสาหกรรมการเจียระไนของไทยให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น

ความสำเร็จของการจัดทั้งสองโครงการในปีนี้ไม่เพียงเป็นเครื่องพิสูจน์ถึงศักยภาพของนักออกแบบและช่างฝีมือไทย แต่ยังเป็นหมุดหมายสำคัญในการเพิ่มมูลค่าเศรษฐกิจของอุตสาหกรรมอัญมณีและเครื่องประดับ ตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ ตั้งแต่การผลิต ออกแบบ เจียระไน ไปจนถึงการสร้างแบรนด์และขยายตลาดระดับโลก GIT จึงตอกย้ำบทบาทในฐานะผู้นำการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมอัญมณีและเครื่องประดับไทยให้เป็นที่ยอมรับในเวทีโลก ทั้งด้านคุณค่าเชิงศิลปะ เศรษฐกิจ และวัฒนธรรม 

อีกทั้งยังได้รับกับสนับสนุนโดยรัฐบาลไทย ทั้งการส่งเสริมให้ประเทศไทยเป็น Gem and Jewelry Hub ของโลก การยกเว้นภาษีนำเข้าอัญมณีบางประเภท การสนับสนุนการสร้างมาตรฐานอัญมณี และการผลักดันให้เกิดการพัฒนาทักษะแรงงาน เพื่อสร้างความเข้มแข็งให้แก่ผู้ประกอบการไทยและเชื่อมโยงกับตลาดโลกอีกด้วย”

นอกเหนือจากความสำเร็จในการจัดการประกวดทั้งสองเวทีนี้ ในเดือนกันยายน GIT ยังเตรียมจัดงานระดับนานาชาติที่มีความสำคัญต่อการขับเคลื่อนอุตสาหกรรม ร่วมกับกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ งาน Bangkok Gem & Jewelry Fair (BGJF) จะจัดขึ้นในวันที่ 9 – 13 กันยายน 2568 เป็นงานแสดงสินค้าอัญมณีและเครื่องประดับที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ดึงดูดผู้ซื้อและผู้ผลิตจากทั่วโลก ถือเป็นงานสำคัญที่สร้างมูลค่าการส่งออกมหาศาลและเสริมภาพลักษณ์ไทยในฐานะศูนย์กลางการค้าอัญมณีโลก  

และอีกหนึ่งงานสำคัญอย่าง International Gem and Jewelry Conference (GIT 2025) จะจัดขึ้นในวันที่ 8 – 9 กันยายน 2568 งานสัมมนาวิชาการนานาชาติที่รวมผู้เชี่ยวชาญ นักวิจัย และผู้ประกอบการจากทั่วโลก เพื่อแลกเปลี่ยนองค์ความรู้และนำเสนอนวัตกรรมใหม่ ๆ ในแวดวงอัญมณีและเครื่องประดับ อันจะช่วยยกระดับมาตรฐานและสร้างโอกาสทางธุรกิจให้กับอุตสาหกรรมไทยให้เติบโตต่อไป

ด้านผลการประกวดพลอยเจียระไนระดับโลก ภายใต้หัวข้อ “Jewel Mastery” ได้แก่ 

รางวัลชนะเลิศ รางวัลมูลค่า 2,000 เหรียญสหรัฐ พร้อมโล่รางวัลพระราชทานจาก สมเด็จพระเจ้าน้องนางเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี ได้แก่  คุณภูเบศ สินสวัสดิ์  

รางวัลรองชนะเลิศลำดับ 1 ได้รับเงินรางวัล 1,000 เหรียญสหรัฐ พร้อมโล่เกียรติยศ จะเป็นของ คุณวีริศ แว่นไธสงค์

รางวัลรองชนะเลิศลำดับ 2 ได้รับเงินรางวัล 500 เหรียญสหรัฐ พร้อมโล่เกียรติยศ ได้แก่ คุณจันทร์หอม ปัญญากุล     

รางวัลที่ 4  รางวัลความคิดสร้างสรรค์ในการเจียระไน  ได้รับเงินรางวัล 500 เหรียญสหรัฐ พร้อมโล่เกียรติยศ ได้แก่ คุณเซ​ จึ่งต๊ะ

สำหรับผลการประกวดออกแบบเครื่องประดับครั้งที่ 19 (GIT’s World Jewelry Design Awards 2025) ได้แก่ 

–  รางวัลชนะเลิศ  เงินรางวัลมูลค่า 3,000 เหรียญสหรัฐ พร้อมพร้อมโล่พระราชทาน จากสมเด็จพระเจ้าน้องนางเธอเจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี กรมพระศรีสวางควัฒนวรขัตติยราชนารี

  Mr. Tan Minghui ผลงานชื่อ In the prime of life ผลิตโดย บริษัท บริษัท บิวตี้เจมส์แฟคตอรี่ จำกัด 

– รางวัลรองชนะเลิศ อันดับ 1  เงินรางวัลมูลค่า 2,000 เหรียญสหรัฐ พร้อมโล่เกียรติยศ 

Ms. Shirin Kazemi ผลงานชื่อ: Time network ผลิตโดย บริษัท ชายน์นิ่ง โกลด์ จำกัด

–  รางวัลรองชนะเลิศ อันดับ 2   เงินรางวัลมูลค่า 1,000 เหรียญสหรัฐ พร้อมโล่เกียรติยศ

Mrs. Qiu Linjie ผลงานชื่อ: Tomorrow’s Beauty ผลิตโดยบริษัท บริษัท เทวิกา จิวเวลรี่ จํากัด

– รางวัลชมเชย  เงินรางวัลมูลค่า 500  เหรียญสหรัฐ พร้อมโล่เกียรติยศ     

Mr. Hamed Ja’afari นําเสนอผลงานชื่อ: Echo of Eternity ผลิตโดย บริษัท รินญาดา จิวเวลรี่ จํากัด

– รางวัล GIT Popular Design ๒๐๒๕    เงินรางวัลมูลค่า 500  เหรียญสหรัฐ พร้อมโล่เกียรติยศ มีผู้ร่วมโหวตผลงานจากทั่วทุกมุมโลก กว่า 300,000 คะแนน คุณพลวัฒน์ ชอบสน กับผลงานชื่อ Giza Mustaqbal ด้วยคะแนนโหวต 123,259 คะแนน

การกลับมาอย่างยิ่งใหญ่: DISNEY TOY EXPO THAILAND 2025 ครั้งที่ 2

 การกลับมาอย่างยิ่งใหญ่: DISNEY TOY EXPO THAILAND 2025 ครั้งที่ 2จัดเต็มความสุขตลอด 4 วัน พบกับแบรนด์ของเล่น ของสะสมคอลเลกชันลิมิเต็ดจากเหล่าคาแรกเตอร์ต่างๆ

ดิสนีย์เดินหน้าสร้างสรรค์กิจกรรมระดับโลกในประเทศไทย ประกาศจัดงาน DISNEY TOY EXPO THAILAND 2025 ครั้งที่ 2 ซึ่งถือเป็นหนึ่งในงานรวมของเล่นและสินค้าคอลเลกชันลิขสิทธิ์ดิสนีย์ที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้  งานมหกรรมครั้งนี้จะนำเสนอสินค้าลิขสิทธิ์ดิสนีย์จากแบรนด์ชั้นนำทั่วโลกกว่า 2,000 รายการ ครอบคลุมพื้นที่จัดงานกว่า 1,700 ตารางเมตร ที่เซ็นทรัลเวิลด์ แฟน ๆ เตรียมพบกับเซอร์ไพรส์มากมาย ทั้งกิจกรรม Meet & Greet สินค้าลิมิเต็ดเอดิชัน และกิจกรรมสุดพิเศษอีกมากมาย ตอกย้ำกระแสเติบโตของตลาดแฟนด้อม สินค้าคาแรกเตอร์ ของสะสม และอาร์ตทอย เข้าร่วมงานฟรี! ตลอด 4 วันเต็ม ตั้งแต่ 4–7 กันยายน 2568

งานนี้จัดขึ้นโดย บริษัท เดอะ วอลท์ ดิสนีย์ (ประเทศไทย) จำกัด ร่วมกับ บริษัท อาซากิ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด, บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน), บริษัท ช้อปปี้ (ประเทศไทย) จำกัด, บริษัท แอดวานซ์ ไวร์เลส เน็ทเวอร์ค จํากัด และ บริษัท ทอยโทเปีย จำกัด สานต่อความสำเร็จจากการจัดงานครั้งแรกที่ได้รับการตอบรับอย่างล้นหลามจากแฟนดิสนีย์และนักสะสมของเล่น สร้างสีสันให้ตลาดของสะสมและอาร์ตทอยที่ยังคงขยายตัวต่อเนื่อง

สำหรับปีนี้ งาน DISNEY TOY EXPO THAILAND 2025 มาพร้อมคอนเซปต์ “Discover the world of Disney” ชวนแฟน ๆ ก้าวเข้าสู่ดินแดนแห่งความสุขและความตื่นเต้น พร้อมสัมผัสสินค้าลิขสิทธิ์จากแบรนด์ระดับโลกมากมาย โดยมีเป้าหมายที่จะรวมหนึ่งในงานจัดแสดงอาร์ตทอยและของสะสมที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย มอบความสุขให้ทั้งผู้ร่วมงานชาวไทยและนักท่องเที่ยวจากต่างประเทศ

งานจัดขึ้นระหว่าง 4–7 กันยายน 2025 ที่เซ็นทรัลเวิลด์ ครอบคลุมพื้นที่ 3 ชั้น (กว่า 1,700 ตร.ม.) ปีนี้ขยายขนาดใหญ่มากขึ้น รวมกว่า 47 ร้านค้า 64 บูธ และสินค้าให้เลือกกว่า 2,000 รายการ พร้อมเปิดโอกาสให้ธุรกิจของเล่นและของสะสมทั้งไทยและต่างประเทศได้พบปะ เจรจาความร่วมมือ และขยายสู่ตลาดโลก

การจัดงานครั้งนี้สะท้อนถึงศักยภาพการเติบโตอย่างแข็งแกร่งของตลาดของเล่นและของสะสม โดยเฉพาะกระแสอาร์ตทอยที่มาแรงอย่างต่อเนื่อง ควบคู่ไปกับความต้องการสินค้าลิขสิทธิ์ที่ยังคงสูง ประเทศไทยถือเป็นตลาดสำคัญของดิสนีย์ ด้วยกลุ่มนักสะสมที่มีความหลากหลาย รสนิยมชัดเจน และกำลังซื้อที่มั่นคง ตัวละครดิสนีย์ที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานกว่าศตวรรษยังคงครองใจแฟน ๆ ไม่เสื่อมคลาย

ไฮไลท์งาน
ผู้ร่วมงานจะได้พบกับสินค้าเอ็กซ์คลูซีฟและสินค้าคอลเลคชั่นใหม่จากแบรนด์ชั้นนำระดับโลก อาทิ Beast Kingdom, Bestine, Blokees, Bushiroad, Casebang, Disney Lorcana Trading Card Game, Funko, Hot Toys , OH!SOME  และ SundayHome พร้อมเปิดตัวคอลเลกชันใหม่ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากคาแรกเตอร์ขวัญใจแฟน ๆ เปิดตัวครั้งแรกในประเทศไทย

อย่าพลาดโซนถ่ายรูปสุดคิวต์กับ Stitch ขนาด 1.8 เมตรในรูปแบบ Preserved Flower ที่มอบทั้งความสุข ความทรงจำ และเสน่ห์สดใสให้นักสะสมได้เก็บภาพ รวมถึงกิจกรรม Meet & Greet สุดพิเศษกับเพื่อนตัวละครจาก Lilo & Stitch

ภายในงานยังมีโปรโมชั่นพิเศษจากบูธต่าง ๆ ลดราคาสินค้าระหว่าง 10%–30% พร้อมลุ้นรางวัลสุดตื่นเต้นและดีลสุดเอ็กซ์คลูซีฟเฉพาะในงานนี้เท่านั้น

อย่าลืมจดวันไว้!
ร่วมฉลองความยิ่งใหญ่ไปกับสินค้าลิขสิทธิ์แท้จาก Disney, Pixar, Marvel และ Star Wars ในงาน DISNEY TOY EXPO THAILAND 2025 วันที่ 4–7 กันยายน 2568 ที่เซ็นทรัลเวิลด์ ชั้น 1–3 เข้าร่วมฟรีตลอดงาน

ติดตามความเคลื่อนไหวได้ที่ www.facebook.com/dtxthailand2025 
และ Instagram @dtxthailand2025